จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความเท็จเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทประกัน (รถยนต์) ที่ถูก Black List ซึ่งเป็นข้อความเก่าที่ยังคงมีผู้หลงเชื่อนำกลับมาเผยแพร่และแชร์ต่อกันทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อสร้างการรับรู้ข้อเท็จจริงผ่านสื่อทุกช่องทาง พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อและแชร์ข้อมูลเท็จดังกล่าว เพราะอาจเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อีกทั้งบริษัทประกันภัยที่ได้รับความเสียหายจากข้อความที่มีการส่งต่อกันนี้ได้มีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่สร้างข่าวลือและบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งผู้กระทำผิดก็ได้ออกมาแถลงขอโทษ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ขอย้ำเตือนกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความเท็จเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทประกัน (รถยนต์) ที่ถูก Black List ซึ่งปัจจุบันบริษัทประกันภัยที่ถูกกล่าวถึงนั้น จำนวน 6 บริษัท ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย หรือปิดกิจการไปแล้ว ส่วนบริษัทประกันภัยที่ถูกกล่าวถึงอีก 2 บริษัท ยังคงดำเนินการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยตามปกติอยู่ในปัจจุบัน และมีสถานะทางการเงินที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำที่สำนักงาน คปภ. กำหนด ได้แก่
ปัจจุบันเทคโนโลยีในการสื่อสารมีความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น การตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสถานะความมั่นคงของบริษัทประกันภัย ประชาชนสามารถทำได้ง่าย สมาคมฯ ขอแนะนำวิธีตรวจสอบข้อมูลความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย เพื่อป้องกันการหลงเชื่อหรือการแชร์ข้อความเท็จที่ส่งต่อกันมา ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ดังนี้
ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อและข้อมูลในการประกอบธุรกิจประกันภัยของบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นปัจจุบัน ผ่านทางช่องทางของบริษัทประกันวินาศภัยโดยตรง หรือทางเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) www.oic.or.th และเว็บไซต์ของ สมาคมประกันวินาศภัยไทย www.tgia.org
บริษัทประกันภัยทุกบริษัท จะต้องเปิดเผยงบแสดงฐานะทางการเงินในเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ โดยเฉพาะอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน" หรือ Capital Adequacy Ratio หรือเรียกสั้น ๆ ว่า CAR อัตราส่วนนี้เป็นอัตราส่วนที่บอกถึงความสามารถของบริษัทประกันภัยในการชำระหนี้สิน ยิ่งตัวเลขอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนมีค่าสูงมาก ยิ่งแสดงถึงความสามารถในการบริหารที่ดี และบ่งบอกถึงความมั่นคงของฐานะทางการเงินของบริษัทประกันภัย ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการกำหนดให้ทุกบริษัทประกันภัยต้องมีอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 140 และต้องเปิดเผยตัวเลข CAR ให้สาธารณชนได้รับทราบ
ทุกวันนี้มีข่าวปลอมและข่าวเท็จที่ส่งต่อเผยแพร่กันในอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียมีอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนผู้รับข่าวสารควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ก่อนส่งต่อหรือแชร์ทุกครั้ง ดังนั้นหากท่านได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทประกันวินาศภัยที่ส่งต่อมาทางโซเชียลมีเดียและมีข้อสงสัย สามารถสืบค้นข้อเท็จจริงของข้อมูลด้านการประกันภัยได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. (www.oic.or.th) และเว็บไซต์ของสมาคมประกันวินาศภัยไทย (www.tgia.org) หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ สมาคมประกันวินาศภัยไทย โทร. 0 2108 8399