นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศไทย เมื่อร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านวุฒิสภา ซึ่งเป็นข่าวดีแก่เหล่าคู่รักชาว LGBTQIAN+ ชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีกฎหมายแต่งงานของบุคคลเพศเดียวกัน โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2024 งาน "PRIDE NATION SAMUI INTERNATIONAL FESTIVAL" ที่จัดขึ้นโดย อาร์เอส มัลติเอ็กซ์ ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ได้เป็นหนึ่งในการผลักดัน และสนับสนุนจัดงานเสวนา PRIDE NATION SAMUI ขึ้น โดยมีประเด็นเสวนาที่น่าสนใจถึง 3 ประเด็น 3 หัวข้อใหญ่ ประเด็นแรก Let's go to Samui Pride-Radise ในหัวข้อ How to be Pride-Radise ประเด็นที่สอง MARRIAGE EQUALITY หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ในหัวข้อ Love is no boundaries สำหรับคู่รักเพศหลากหลาย และประเด็นสุดท้าย DRAG CULTURE ในหัวข้อ Pride your inner drag Speakers สำหรับงานเสวนาได้รับเกียรติ จาก ดร.กัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย, คุณรัชชพร พูลสวัสดิ์ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย, คุณจักรวรรดิ วายุกุล General Manager ผู้อำนวยการศูนย์ การค้าเซ็นทรัล สมุย, คุณอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร นักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศและผู้ก่อตั้งบริษัทนฤมิตไพรด์ จำกัด, Mr.Stephan Rohrer General Manager Avani+ Samui Resort , คุณปาหนัน ชัญญา รัตนธาดา นักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายสมรสเท่าเทียม, คุณพอร์ช - อภิวัฒน์ อภิวัฒน์เสรี และ คุณอาม - สัพพัญญู ปนาทกูล ตัวแทนและขวัญใจต้นแบบชาว LGBTQIAN+ ที่กำลังจะเป็นคู่รัก LGBTQ+ คู่แรกของเอเชียที่กำลังจะแต่งงานกัน หลังกฎหมายถูกรับความเห็นชอบ, คุณภัทร เลิศสุกิตติพงศา กรรมการบริษัท เยลโล่ แชนแนล จำกัด ผู้ก่อตั้ง DRAG BANGKOK และ คุณศาตราพชร สายยศ Drag : Leo Pattra ตัวแทนบ้าน Blonche มาร่วมเสวนา และมี คุณซันชายน์ ทูตนฤมิต 2024 / คุณมิว พงษ์พิชร ทูตนฤมิต 2024 ให้เกียรติเป็นผู้ดำเนินงานเสวนา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในการเสวนาครั้งนี้ ช่วงแรกในประเด็น Let's go to Samui Pride-Radise หัวข้อ How to be Pride-Radise ได้พูดถึง การวางแผนเปิดรับ และการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ และการร่วมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเปิดรับความหลากหลาย เสมอภาคเท่าเทียม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในฐานะศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว (Tourism Hub) รวมถึงส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวไทยสู่การเป็น Top LGBTQIAN+ Friendly Destination ดึงดูดนักท่องเที่ยว LGBTQIAN+ และแผนการปฏิบัติ และโครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอำเภอสมุย
โดย ดร.กัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุย เผยว่า "สำหรับเกาะสมุยทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติรวมถึงชาว LGBTQIAN+ ที่ผ่านมามีการเรียกร้องมาอย่างยาวนาน และนับว่าปีนี้เป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ เพราะ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว ซึ่งเกาะสมุยจะเป็นอีกหนึ่งเกาะสวรรค์ให้กับพี่น้องที่มีความหลากหลาย เป็นเกาะที่ให้นักท่องเที่ยวทุกประเทศ มาท่องเที่ยว ที่ผ่านมาเหล่า LGBTQIAN+ ก็เข้ามาเที่ยวที่เกาะสมุนเยอะ และในเมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านแล้วทางเกาะสมุยก็พร้อมจะรองรับความหลากหลายทางเพศกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเพิ่มขึ้น"
ขณะที่ คุณอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร นักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศและผู้ก่อตั้งบริษัทนฤมิตไพรด์ จำกัด เสริมต่อว่า "ภาคใต้คาดหวังให้สมุยเป็น Destination ให้เหล่า LGBTQIAN+ และเชื่อได้ว่าหลังกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน นักท่องเที่ยวก็จะเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยเยอะมาก ส่วนเหตุผลที่มาเพราะเขาต้องการมาในประเทศที่เข้ามาแล้วไม่โดนดูถูก และไม่มีใครมองว่าเขาเป็นตัวประหลาด ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงอยากเข้ามาในพื้นที่ที่มีคนยอมรับ และเมืองที่เป็นด่านแรก และเป็นเกาะสวรรค์อย่างเกาะสมุย คือเมืองท่องเที่ยวสำหรับชาว LGBTQIAN+ แน่นอน อีกทั้งที่หลายๆคนทราบกัน ประเทศไทยมีจุดเด่นในเรื่องของการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงเพศ เพราะเรามีหมอที่เก่ง ทำให้ทั่วโลกตัดสินใจมาเปลี่ยนชีวิตกันที่นี่"
ด้าน คุณจักรรวรรดิ วายุกุล ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัล สมุย กล่าวทิ้งท้ายว่า "ที่ผ่านมาเซ็นทรัลเปิดมา 10 ปี รองรับชาวไทยชาวต่างชาติทั่วโลก ศูนย์การค้าเราก็พยายามดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIAN+ เรายินดีต้อนรับอย่างยิ่ง ส่วนของการบริหารเราจะสร้างความหลากหลายความสนุกสนาน จัดอีเว้นท์ให้สอดคล้องกับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว"
มาถึงประเด็นที่ 2 Marriage Equality ที่จะพูดในหัวข้อ Love is no boundaries พูดถึงเรื่องราว และมุมมองความรู้เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยทาง Mr. Stephan Rohrer General Manager Avani+ Samui Resort ได้จัดทำกิจกรรมการจดทะเบียนสมรสจำลองที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในงาน Pride Nation Samui กันมาตั้งแต่ 24-28 มิถุนายน และแรงบันดาลใจที่จัดกิจกรรมขึ้น พร้อมแผนสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในอนาคต
ต่อมา คุณปาหนัน ชัญญา รัตนธาดา นักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายสมรสเท่าเทียม ได้มาพูดถึงการขับเคลื่อนการสนับสนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม และมุมมองในอนาคตหลังเกิดการบังคับใช้ในอนาคต รวมไปถึงการให้โฟกัสจากข้อเสนอประชาชน ในหมวดในความสัมพันธ์บิดามารดาบุตรในกฎหมายเพ่ง ระบุอยู่ว่ามีเพศชาย และหญิง เท่านั้น ยังไม่ได้มีความเป็นกลางทางเพศ จึงอยากให้รับฟังด้านภาคประชาชน เพื่อที่จะสมบูรณ์มากขึ้น ในเรื่องของการสิทธิทางครอบครัวชาว LGBTQIAN+
ด้านคู่รักชื่อดัง พอร์ช อภิวัฒน์ อภิวัฒน์เสรี และ อาม สัพพัญญู ปนาทกูล LGBTQIAN+ ที่กำลังจะมีข่าวดี และตั้งใจจะแต่งงานเป็นคู่รักแรกของเอเชียหลังกฎหมายสมรสเท่าเทียมใช้ได้จริง ได้ออกมาเล่าจากความฝันที่เป็นจริง พร้อมความรู้สึกหลังจากมีการรับรองร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และการวางแผนชีวิตคู่ และการแต่งงานในอนาคต พร้อมเผยเคล็ดลับมุมมองความรัก และการเติบโตจากความสัมพันธ์ที่ก่อนหน้านี้สังคมเต็มไปด้วยความท้าทาย คุณพอร์ช กล่าวว่า "ความรู้สึกแรกเลย ดีใจมาก ที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน ในฐานะมนุษย์คนนึงเราควรมีสิทธิในความรัก และครอบครัว ตอนนี้ทุกความรักมีค่าเท่ากันแล้ว ส่วนคู่ผมเราวางแพลนไว้น่าจะแต่งประมาณปลายปี เรามีเคล็ดลับในการการรักษาความรักคือ เรามีจุดหมายที่จะไปด้วยกันทั้งชีวิต อีกหนึ่งเรื่อง ครอบครัวคือสิ่งสำคัญ เราโชคดีมากที่ครอบครัวของเรา มองว่าเราคือลูกคนหนึ่ง ไม่ได้มองถึงเรื่องเพศ เรา สามารถวร้างครอบครัวที่โชคดีได้นะครับ เราสามารถให้ลูกหลานบอกกับคนอื่นได้ว่าเราโชคดีมากที่เราเกิดในครอบครัวนี้ มันสร้างได้ครับ ด้านคนรัก คุณอาร์ม เสริมต่อว่า "กฎหมายสมรสเท่าเทียม มันคือความภาคภูมิใจของพวกเรา ในการที่เราต่อสู่กันมา แต่ยังมีกฎหมายข้ออื่น ๆ อีกที่เราจะต้องไปแก้ คำหน้าหน้าชื่อ การศึกษา ต่าง ๆ และต้องขอบคุณคนรุ่นก่อนที่ต่อสู้มาจนทำให้วันนี้มาถึง แต่น่าเสียดายบางคนเค้าก็อาจะไม่ได้อยู่ใช้ เรารู้สึกขอบคุณพวกเขาเหล่านั้นจริง ๆ และเมื่อมองในมุมมองสิทธิของเรา ที่ตอนนี้คบกันมานาน17 ปี การแต่งงานหรือกฎหมายการสมรสเท่าเทียม มันคือการเซฟให้พวกเรามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการรักษาต่าง ๆ เช่น การถึงเวลาเซ็นชื่อหน้าห้องผ่าตัด เพื่อทำการรักษาของคนรัก เราไม่รู้จะเกิดวันไหน ถ้าวันนึงเราต้องใช้ มันคือการเตรียมพร้อมสำหรับเราแล้วในอนาคตครับ"
ปิดท้ายด้วย ประเด็น Drag Culture ในหัวข้อ Pride your inner drag Speakers นำโดย คุณภัทร เลิศสุกิตติพงศา กรรมการบริษัท เยลโล่ แชนแนล จำกัด ผู้ก่อตั้ง DRAG BANGKOK และ คุณศาตราพชร สายยศ หรือ Drag : Leo Pattra ตัวแทนจากบ้าน Blonche โดยมี Moderator คุณปาหนัน ชัญญา รัตนธาดา จาก Bangkok Pride ร่วมพูดคุยที่มาการก่อตั้ง DRAG BANGKOK และแรงบันดาลใจในการหวังดันให้ทั่วโลก รู้จัก DRAG BANGKOK ในฐานะฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนประเทศจาก DRAG Community จากความสำเร็จที่เกิดขึ้น และการก้าวข้ามบททดสอบจากความท้าทายในด้านต่างๆ พร้อมการสนับสนุนจากผู้นำในสังคมในด้านต่างๆ ที่พร้อมเข้าร่วม ทั้งมุมมองการสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ที่จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับประเทศ และการนำเสนอมุมมองให้สังคมรู้จักตัวตนบทบาทของ DRAG ที่จะมาเปลี่ยนแปลงความเห็น และทัศนคติของคนในสังคมที่มีต่อกลุ่ม LGBTQIAN+ พร้อมประชาสัมพันธ์ DRAG รุ่นใหม่ ที่ต้องการจะเริ่มต้นในการเป็น DRAG Artist และการสร้างความยอมรับในชุมชน Drag Community โดยมีใจความสำคัญว่า "DRAG ไม่นิยามจำกัดเพศ มันคือศิลปะ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพศไหน ถ้าคุณอยากที่จะแสดงความเป็นตัวตน ถ้าคุณมีใจรัก การแสดงออกทางด้านต่าง ๆ คุณสามารถทำได้ครับ คุยกับตัวเองว่าคุณคือใคร ชอบอะไร เพียงแค่นี้คุณสามารถเป็นDRAG ได้ ทุกวันนี้ เด็กรุ่นใหม่เก่ง และมีความกล้าแสดงออก ความคิดสร้างสรรค์ เขาจะสามารถเติบโตได้ไว และ Darg จะเป็นหนึ่งอาชีพในฝันของทุกคนได้ในอนาคตอย่างแน่นอน จากการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล"