"เม็ดมะม่วงหิมพานต์" เป็นเมล็ดพืชซึ่งอุดมด้วยโปรตีนและไขมันดีต่อสุขภาพ โดยส่วนที่นำมาบริโภคจะเป็นเนื้อในสุดของเมล็ด ได้รับความนิยมรับประทานเป็นของกินเล่นหรือใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารและขนมหวานต่างๆ
ทั้งนี้ มะม่วงหิมพานต์ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ ปลูกง่ายในสภาพอากาศชื้นและอบอุ่น น้ำไม่ท่วมขัง โดยจะให้ผลผลิตปีละครั้งในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ในส่วนของเมล็ดจำหน่ายได้ทั้งเมล็ดดิบทั้งเปลือกหรือผ่านกระบวนการผลิต และแปรรูปทั้งกะเทาะเปลือกหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แล้ว โดยสามารถจำหน่ายได้ตั้งแต่ราคา 20-50 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นกับคุณภาพผลผลิตและราคาตลาด
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ วิจัยและพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลผลิตมะม่วงหิมพานต์ในนรูปแบบ "ผลิตภัณฑ์นมเม็ดมะม่วงมะม่วงหิมพานต์หมักเสริมโพรไบโอติก" ในระดับกึ่งอุตสาหกรรม โดยใช้เชื้อหมักโยเกิร์ตในกลุ่มแลคติกแอซิดแบคทีเรียที่มีจำหน่ายในเชิงพานิชย์ โดยสามารถผลิตโยเกิร์ตจากนมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ได้มาตรฐาน คือ ปริมาณกรดมากกว่าร้อยละ 0.6 ปริมาณแลคติคแอซิดแบคทีเรียมากกว่า 106 CFU/g และมีโพรไอติกสายพันธุ์พื้นถิ่นที่เหมาะกับคนไทยและคนเอเชีย มากกว่า 107 CFU/g ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็นรักษาไม่น้อยกว่า 4 อาทิตย์ ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
1.เป็นผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตที่ทำจากพืช ไม่มีส่วนผสมของสัตว์
2.มีรายงานการวิจัยระบุถึงคุณสมบัติของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่มีการศึกษาพบว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ (NCD)
3.มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ที่เหมาะกับคนไทย คนเอเชีย เป็นสายพันธุ์ที่ผลิตโดย ศูนย์นวัตกรรมผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม (ICPIM 1) หน่วยงานในสังกัด ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ วว. และได้รับการขึ้นทะเบียน อย. เรียบร้อยแล้ว
วว. พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต "ผลิตภัณฑ์นมเม็ดมะม่วงมะม่วงหิมพานต์หมักเสริมโพรไบโอติก" สู่เชิงพาณิชย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทร. 0 2577 9000 หรือที่ "วว. JUMP"