เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จครบรอบ 10 ปี โรงงานโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดสร้างความยั่งยืน เตรียมเดินหน้าใช้พลังงานชีวมวลประเภทไอน้ำทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในกระบวนการผลิต พร้อมขยายสายการผลิตรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นทั้งจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ
นายสุดิปโต โมซุมดา กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหารอินโดจีน บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ("เป๊ปซี่โค ประเทศไทย") ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมันฝรั่งทอดกรอบ "เลย์" เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีของการจัดตั้งโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป๊ปซี่โค ประเทศไทยเป็นบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นทางด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ pep+ (PepsiCo Positive) ที่เน้นความยั่งยืนตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการที่ริเริ่มหลายโครงการ ส่วนทางด้านทรัพยากรมนุษย์ เป๊ปซี่โค ประเทศไทยยังคงมุ่งเน้นการทำงาน โดยยึดพนักงานเป็นศูนย์กลางและมุ่งใส่ใจในความเป็นอยู่ที่ดีและการพัฒนาทักษะ ซึ่งส่งผลให้การดำเนินงานที่ผ่านมาของโรงงานเป๊ปซี่โค ประเทศไทย ภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ โรงงานเป๊ปซี่โค ประเทศไทย ภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เริ่มเปิดดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 อยู่บนเนื้อที่กว่า 76 ไร่ เพื่อผลิตขนมขบเคี้ยวชั้นนำ ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ มันฝรั่งทอดกรอบเลย์ เลย์สแตคส์ ชีโตส ข้าวเกรียบตะวัน และในอนาคตบริษัทฯ มีแผนจะขยายสายการผลิตสินค้าทั้งภายในประเทศและสำหรับส่งออกต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดย 10 ปีที่ผ่านมาจากการใช้เทคโนโลยีด้านการลดพลังงานต่างๆ เช่น การลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตผ่านการรีไซเคิล การใช้พลังงานแสงอาทิตย์โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างของหลังคาเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ การเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องเพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว โดยปัจจุบันทางบริษัทฯ มีแผนลดการใช้แก๊สธรรมชาติผ่านโครงการไบโอแมส (Biomass) ซึ่งจะใช้พลังงานชีวมวลประเภทไอน้ำเพื่อทดแทนแก๊สธรรมชาติในกระบวนการผลิต เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero Emission) ภายในปี พ.ศ. 2583
นอกจากนี้ โรงงานเป๊ปซี่โค ประเทศไทย ภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Journey to Zero Waste ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ และประโยชน์ของการนำขยะไปแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยพาเลทไม้เทียมซึ่งแปรรูปจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้แล้วล็อตแรกจำนวน 1,000 ชิ้นได้ถูกจัดส่งไปยังโรงงานเป๊ปซี่โค ประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ เพื่อนำไปใช้งานทดแทนพาเลทไม้จริง ซึ่งพาเลทแต่ละชิ้นทำมาจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้แล้วจำนวน 24.5 กิโลกรัม รวมถึงบรรจุภัณฑ์พลาสติกอ่อนหลายชั้น (Multilayer plastic packaging - MLP) จำนวน 19.6 กิโลกรัม หรือเท่ากับการใช้ซองมันฝรั่งทอดกรอบเลย์ ขนาด 25 กรัม จำนวนถึง 7,025 ถุง
ที่ผ่านมา โรงงานเป๊ปซี่โค ประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่ชุมชนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม One Smile at a Time ที่มีการสนับสนุนความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ผ่านการเลี้ยงอาหารในโรงเรียนและบริจาคสิ่งของจำเป็น รวมถึงการให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะในพื้นที่เพื่อเสริมสร้างชุมชนที่น่าอยู่มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการจ้างแรงงานในพื้นที่ จ. พระนครศรีอยุธยา มากกว่า 900 คนและส่งเสริมในเรื่องการเพิ่มทักษะและพัฒนาอาชีพแก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการอบรมและการฝึกสอนหน้างาน หรือ On the job training อีกด้วย
โรงงานเป๊ปซี่โค ประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ยังได้รับรางวัล Silver Resource Conservation (Recon) หรือการอนุรักษ์ทรัพยากรระดับเงิน รางวัล 2022 Quality and Food Safety Award ระดับเงิน จากเป๊ปซี่โค ระดับโลก รางวัลเชิดชูเกียรติสถานประกอบการกิจการดีเด่น ปีที่ 8 จากกระทรวงแรงงาน รางวัลสถานประกอบการปลอดโรคฯ "โครงการปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข" ระดับทองประจำปี 2560 ซึ่งจัดโดยกระทรวงสาธารณสุข และรางวัลธรรมภิบาลสิ่งแวดล้อมประจำปี 2560 จากกระทรวงอุตสาหกรรม โดยรางวัลดังกล่าวมอบให้เพื่อยกย่ององค์กรที่มีระบบจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี และพร้อมร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน