DITP และ RX Tradex เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทย พร้อมเชื่อมโยงธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต ในงาน TILOG - LOGISTIX 2024

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 2, 2024 11:20 —ThaiPR.net

DITP และ RX Tradex เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทย พร้อมเชื่อมโยงธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต ในงาน TILOG - LOGISTIX 2024

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) ร่วมกับ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex) กำหนดจัดงาน TILOG - LOGISTIX 2024 ระหว่างวันที่ 15 - 17 สิงหาคมนี้ ที่ไบเทค ฮอลล์ 98พร้อมดึงผู้ประกอบการกว่า 150 บริษัท นำเสนอสินค้าและบริการกว่า 415 แบรนด์จาก 25 ประเทศ เข้าจัดแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยีและบริการด้านโลจิสติกส์ พร้อมกิจกรรมเสริมองค์ความรู้ สัมมนาวิชาการ คาดผู้เข้าชมงาน 9,000 ราย

นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า "อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยปี 2566 มีทิศทางเติบโตดี สมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทยคาดการณ์อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในปี 2567 จะขยายตัวร้อยละ 15 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์เป็นนิติบุคคลรวม 35,593 ราย (ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดือนมิถุนายน 2567) มีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ที่ 5,808.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.36 ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในไทย โดยจีนเป็นสัญชาติที่ลงทุนมากที่สุด นอกจากนี้จากการจัดอันดับดัชนีวัดประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (International Logistics Performance Index : LPI) ของธนาคารโลก ปี พ.ศ. 2566 พบว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 34 จาก 139 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซียสำหรับภูมิภาคอาเซียน"

ดร. ชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เผยว่า "ปัจจุบันผู้ส่งออกต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจทั้งจากภายในประเทศ และนอกประเทศ อาทิ การขาดแคลนแรงงาน ภาวะต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นทุกรายการ มาตรการทางการค้าจากหลายประเทศ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) EUDR (EU Deforestation-free Regulations) หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับการลดการผลิตและการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการตัดไม้ทำลายป่าและทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของป่า ของสหภาพยุโรปและคาดว่าประเทศคู่ค้าสำคัญอื่นจะกำหนดนโยบายออกมาบังคับใช้ในลักษณะเดียวกันในไม่ช้า ซึ่งผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเหล่านั้นต้องปรับตัว วางแผนและดำเนินการตามนโยบายเหล่านี้ ขณะเดียวกันก็เป็นทั้งโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่สามารถปรับตัวได้ ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ปรับปรุงกระบวนการผลิต ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และการขนส่งสินค้า และเลือกใช้พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกัน ซึ่งผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ถือเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์สำคัญสำหรับผู้ส่งออก ดังนั้น การคัดเลือกผู้ให้บริการที่เข้าใจในความต้องการทางธุรกิจและช่วยผู้ส่งออกวางแผน เสนอทางเลือกในการพัฒนา ตลอดจนช่วยแก้ปัญหา จึงสำคัญอย่างยิ่งและเป็นกุญแจสู่ความยั่งยืนในการค้าระหว่างประเทศ"

นายเฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์ นายกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ พูดถึงอนาคตของวงการโลจิสติกส์ว่า "การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยผู้ให้บริการสามารถควบคุมการทำงานของทั้งซัพพลายเชน ได้ข้อมูลมาใช้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงเวลา มีประสิทธิภาพ และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น เทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญกับบริการโลจิสติกส์ เช่น หุ่นยนต์จัดการคลังสินค้าและการขนลำเลียงสินค้า AI ช่วยควบคุมการขับขี่และเส้นทางของผู้ขนส่งสินค้า ซอฟต์แวร์ช่วยจัดการวางแผนเส้นทางการส่งสินค้า รวมไปถึง Blockchain ช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลของสินค้าหลายประเภทจำนวนมาก ๆ และเชื่อมต่อกับ Stakeholder ทั้งซัพพลายเชนได้ ซึ่งการพัฒนาด้านนี้ ต้องขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน และทำกันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก"

ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของโลจิสติกส์ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศ DITP จึงร่วมกับ RX Tradex จัดงาน TILOG - LOGISTIX 2024 โดยนางสาวณัฐิยากล่าวถึงแนวคิดการจัดงานว่า "งานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'Connecting the Logistics Future' หรือ เชื่อมโยงโลกของธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต เพื่อแสดงถึงศักยภาพ ความพร้อม และความร่วมมือของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในการปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคตที่มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ เทคโนโลยีดิจิทัล และความยั่งยืน"

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ RX Tradex กล่าวว่า "ภายในงานจะมีการแสดงสินค้าจากนานาชาติ จากไทย จีน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย รวมทั้งพาวิลเลี่ยนจากจีน โดยนวัตกรรมเด่นที่นำมาแสดง ได้แก่ ระบบช่วยเหลือและตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่รถขนส่งด้วย AI, ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ใช้หุ่นยนต์ช่วยลำเลียงกระบะบรรจุสินค้า, ถุงลมกันกระแทกในตู้คอนเทนเนอร์ชนิดหน้าเรียบ, ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีคิดคำนวณแทนมนุษย์, บริการขนส่งทางรางที่ครบวงจร และอีกมาก ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้เข้าชมงานในปีนี้ไม่น้อยกว่า 9,000 ราย และตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายในงานไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท"

นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ นิทรรศการภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย, Innovation Showcase, งานสัมมนา Trade Logistics Symposium 2024 และ World Transport & Logistics Forum

งาน TILOG - LOGISTIX 2024 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 15 - 17 สิงหาคมนี้ ณ ไบเทค ฮอลล์ 98 สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ www.tilog-logistix.com หรือโทร. 0 2686 7222 งานนี้เป็นงานเจรจาทางธุรกิจ ผู้จัดงานจึงขอความร่วมมือผู้ชมงานแต่งกายสุภาพ และสงวนสิทธิ์ไม่ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชมงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ