การเป็นตัวจริงในโลกการทำงานและการทำธุรกิจนั้น เป็นคนเก่งอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะยุคนี้ต้องมีทั้ง "โอกาส" "ประสบการณ์" และ "คอนเน็กชัน" ซึ่งหนึ่งใน "ทางลัด" ที่จะทำให้ยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้ง 3 ตัวได้พร้อมกันก็คือ "การไปเรียนต่อต่างประเทศ" เพราะนอกจากจะได้วิชาความรู้และโปรไฟล์ที่ปังขึ้นแล้ว ยังได้เรียนรู้โลกกว้างเพื่อปูทางไปสู่โอกาสใหม่ๆ ในชีวิต
ด้วยความคุ้มค่านี้ ในแต่ละปีจึงมีนักศึกษาไทยเดินทางไปเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศหลายหมื่นคน โดยประเทศฮอตฮิตติดลมบนก็หนีไม่พ้น อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แต่ยังมีใครอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าอีกหนึ่งประเทศที่ควรค่าไปศึกษาต่อก็คือ "ประเทศฝรั่งเศส" ซึ่งเรื่องหนึ่งที่เราคาดไม่ถึงกัน ก็คือประเทศนี้มีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาต่อที่ไม่สูง อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพมาตรฐานระดับ Top 5 ของโลก (อ้างอิงจาก https://www.usnews.com/news/best-countries/best-countries-for-education) ที่สำคัญที่นี่ยังเปิดกว้างต้อนรับนักศึกษาทุกเชื้อชาติ โดยไม่แบ่งแยกผิวพรรณ ฐานะทางสังคม ทำให้นักศึกษาต่างชาติต่างได้รับสิทธิ์ทางการศึกษาและการใช้ชีวิตเท่าเทียมกับนักศึกษาฝรั่งเศส ยิ่งเมื่อบวกกับเสน่ห์ทางศิลปวัฒนธรรม รสนิยมด้านแฟชั่น และความมีระดับในด้านต่างๆ ด้วยแล้ว ฝรั่งเศสจึงเป็นหนึ่งในประเทศยอดฮิตที่มีนักศึกษาต่างชาติเดินทางไปเรียนต่อมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยในปี 2566 ที่ผ่านมามีนักศึกษาต่างชาติหลั่งไหลไปเรียนถึงเกือบ 400,000 คน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก (อ้างอิงจาก https://www.applyboard.com/applyinsights-article/what-were-the-top-destinations-for-international-students-in-2023) และหนึ่งในสาขายอดยอดนิยมที่มีผู้ไปเรียนมากที่สุด คือ ด้านการบริหารธุรกิจ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
หากใครกำลังตัดสินใจจะเรียนต่อในระดับปริญญาโทด้านบริหาร แต่ยังคิดไม่ตกว่าจะเรียนที่ไหนดี วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ "หลักสูตร 2 ปริญญา" หรือ "Double Degree" ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 2 มหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU และ Toulouse School of Management หรือ TSM แห่ง Toulouse Capitole University ที่ร่วมกันสร้างสรรค์หลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชา General Management เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้ระดับสากลให้กับนักเรียนไทย หลักสูตรนี้ดีอย่างไร ทำไมจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไปดูกัน
เจาะ 7 ข้อดี ของ Double Degree CMMUxTSM
- ได้เรียน 2 ยู ระดับตัวท้อปของเอเชียและยุโรป
ผู้เรียนจะได้เรียนกับ 2 สถาบันการศึกษาชั้นนำระดับ Top ของเอเชียและยุโรป โดย CMMU เป็นหนึ่งใน 5% ของสถาบันการศึกษาทั่วโลกที่ได้รับการรับรองจาก AACSB (Association to Advance Collegiate Schools of Business) ด้วยหลักสูตรที่ครบครันและนวัตกรรมการเรียนการสอนที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากล พร้อมด้วยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ในขณะที่ TSM ก็เป็นโรงเรียนบริหารธุรกิจชั้นนำระดับแถวหน้าของยุโรปที่มีรางวัลและมาตรฐานรับรองมากมาย เช่น EQUIS (European Quality Improvement System) ซึ่งเป็นระบบรับรองคุณภาพสถาบันสอนบริหารธุรกิจในยุโรปที่ให้การรับรองคุณภาพสถาบัน และ The European EPAS โดย EFMD (European Foundation for Management Development) ที่ให้การรับรองคุณภาพหลักสูตร ซึ่ง EFMD เป็นสถาบันการรับรองคุณภาพหลักสูตรธุรกิจและบริหารธุรกิจระดับนานาชาติที่เข้มงวดและน่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีการพิจารณาอย่างครอบคลุมตั้งแต่สภาพแวดล้อมและการบริหารจัดการภายในของสถาบัน ความเข้มงวดทางวิชาการ ภาคปฏิบัติ การเปิดสู่สากล จริยธรรม ไปจนถึงความยั่งยืน
- ได้ปริญญา 2 ใบ ใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี บริหารธุรกิจได้ทั้ง 2 ซีกโลก
ปกติการเรียนปริญญาโททั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่สำหรับหลักสูตรดับเบิ้ลดีกรีนี้ใช้เวลาเรียนเพียงแค่ 5 เทอม เท่านั้น โดย 3 เทอมแรกจะเรียนที่ CMMU และ 2 เทอมหลัง จะได้โกอินเตอร์ไปเรียนที่ TSM เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนอกจากจะใช้เวลาเรียนไม่นานแล้วหลักสูตรนี้ยังออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างศาสตร์แห่งโลกตะวันออกและศาสตร์แห่งโลกตะวันตก เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะความรู้และมุมมองในการบริหารธุรกิจแบบสากล ได้เรียนรู้ทั้งการบริหารธุรกิจในบริบทเศรษฐกิจเอเชียและบริบทเศรษฐกิจโลก ได้ศึกษาการทำธุรกิจระดับนานาชาติอีกทั้งยังเน้นการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง ใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ Problem-Based Learning โดยศึกษาจากโจทย์และกรณีตัวอย่างจากธุรกิจจริงทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่สำคัญเมื่อเรียนจบจะได้รับปริญญามหาบัณฑิตจากทั้ง CMMU และ TSM ซึ่งจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบและช่วยให้โอกาสในหน้าที่การงานเปิดกว้างยิ่งขึ้น
- ได้พัฒนา Soft Skills ทักษะที่ใครๆ ก็ต้องการตัว
นอกจากได้เรียนรู้และฝึกฝน Hard Skills และ Cognitive Skill แล้ว การได้ไปใช้ชีวิตในสังคมใหม่ ได้เรียนรวมกับเพื่อนใหม่ ได้เจอะเจอผู้คนมากมายจากทุกมุมโลกที่มีความแตกต่างหลากหลายทั้งเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ได้เรียนรู้อุปนิสัยใจคอ เข้าใจวิธีคิด วิธีทำงาน ได้ฝึกฝนทักษะด้านภาษา ทักษะการสื่อสาร การเจรจาต่อรอง และการทำงานเป็นทีม ทำให้ได้ฝึกปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะทางสังคม หรือ Soft Skills ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกธุรกิจสมัยใหม่ที่ไม่ได้ต้องการแต่คนเก่งเท่านั้น แต่ยังต้องการคนที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
- ได้คอนเน็กชันแบบเวิลด์ไวด์ ไปไกลได้ในหลากสายงานบนโลก
ในการทำโปรเจกต์จบ ที่ Toulouse นักศึกษาจะมีโอกาสได้เข้าไปฝึกงานที่บริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีให้เลือกนับร้อยแห่ง โดยจะได้เข้าไปเรียนรู้และปฏิบัติงานเสมือนเป็นพนักงานจริง ได้เรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการทำงานในทุกๆ ขั้นตอน เรียนรู้แนวคิดและวัฒนธรรมการทำงานของคนต่างชาติ รวมทั้งได้ฝึกรับมือและแก้ปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น CMMU และ TSM ยังมุ่งสร้างอนาคตที่ดีให้กับนักศึกษาทุกคนด้วยระบบช่วยเหลือและคอนเน็กชันที่เข้มแข็งที่จะช่วยบัณฑิตจบใหม่ให้สามารถหางานที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถได้อย่างรวดเร็ว เพราะทั้ง CMMU และ TSM ต่างมีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก รวมทั้งเครือข่ายศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายสาขาอาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำ และช่วยเหลือรุ่นน้อง อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์ม TSM Connect ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลการหางานแบบครบวงจรช่วยให้นักศึกษาเข้าถึงตำแหน่งงานจากบริษัทชั้นนำกว่า 1,000 ตำแหน่งทั่วโลก
- ได้คุณภาพชีวิตที่ดี ในเมืองที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต
เวลาไปเรียนต่อต่างประเทศ คนส่วนใหญ่มักโฟกัสไปที่การเลือกที่เรียนก่อน ส่วนสิ่งที่มักจะมองข้ามหรือให้ความสำคัญเป็นลำดับท้ายๆ คือ การเลือกเมืองที่เรียน ทำให้หลายคนเมื่อไปเรียนแล้ว แม้จะได้เรียนในสถาบันที่มีชื่อเสียงแต่ผู้เรียนกลับมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่ใช่ที่ตูลูส เพราะที่นี่เป็นเมืองที่เงียบสงบ สะอาด สวยงาม เหมาะแก่การอยู่อาศัย มีพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากมาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสะดวกสบาย ความปลอดภัยในชีวิตสูง มีการบริหารจัดการเมืองดีจนได้รับการยกย่องให้เป็น Capital of Good Life ของฝรั่งเศส และที่สำคัญผู้คนยังเป็นมิตรและยินดีต้อนรับนักเรียนต่างชาติ
- ได้สีสันและค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของคนที่ไปเรียนไกลบ้านนานๆ คือ ความรู้สึกเบื่อและเหงา แต่บอกเลยว่าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ไม่มีคำว่าเบื่อ เพราะตูลูสตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่สวยงาม แวดล้อมด้วยทิวทัศน์ทั้งแม่น้ำ ลำธาร และเทือกเขาที่มีชื่อเสียงของยุโรปอย่างพิเรนีส (Pyrenees) ส่วนอากาศก็เหมาะกับคนไทยมากๆ ฤดูร้อนอากาศอบอุ่น ส่วนฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย ไม่หนาวจนเกินไป อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว สำหรับใครที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ที่นี่ก็เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงของยุโรป เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเครื่องบินแอร์บัส (AIRBUS) เป็นศูนย์กลางการบินและศูนย์การศึกษาอวกาศแห่งชาติ (Centre National d'Etudes Spatiales) หรือที่รู้จักกันในนาม "นาซ่าแห่งยุโรป" แต่หากใครชอบด้านศิลปวัฒนธรรม ตูลูสก็เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตั้งแต่ยุคโรมันซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์และความเป็นเมืองเก่าแก่ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งสถาปัตยกรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุ มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากมาย และมีมรดกโลกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างมหาวิหารแซงต์ แซร์แนง (La Basilique Saint-Sernin) สถาปัตยกรรมโรมันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
- ได้การศึกษาคุณภาพระดับแถวหน้า แต่ค่าใช้จ่ายสบายกระเป๋า
และสุดท้าย สิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกที่เรียนต่ออย่างยิ่งก็คือค่าใช้จ่าย เพราะขึ้นชื่อว่ายุโรป หลายคนอาจกังวลว่าค่าใช้จ่ายจะสูง แต่สำหรับที่ตูลูสนั้นเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อื่นๆ ในยุโรป บอกได้เลยว่าค่าครองชีพที่นี่เป็นมิตรกับชาวต่างชาติมากๆ อีกทั้งยังมีทุนการศึกษา ทุนสนับสนุน และความช่วยเหลือทางการเงินมากมายเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่นักศึกษาขณะเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส และที่สำคัญผู้ที่เรียนหลักสูตร "ดับเบิ้ลดีกรีไทย-ฝรั่งเศส" สาขา General Management นี้ แม้จะได้บินไปเรียนและใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศสแต่ยังเสียค่าหน่วยกิตเท่ากับเรียนในไทยโดยจ่ายค่าเล่าเรียนราคาเดียวตลอดหลักสูตรไม่มีจ่ายเพิ่ม เรียกได้ว่าคุ้มสุดคุ้ม
และสำหรับใครที่สนใจสามารถตรวจสอบวิธีการสมัคร หลักเกณฑ์การพิจารณา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) โทรศัพท์ 02-206-2000 หรือเพจเฟซบุ๊ก CMMU Mahidol (https://www.facebook.com/CMMUMAHIDOL)