บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ฟอร์มสวย! ปิดงบ 6 เดือนแรก กวาดรายได้รวม 828.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.92% กำไรสุทธิ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังทยอยรับรู้รายได้การส่งมอบงานภาครัฐขนาดใหญ่หลายโครงการ ฟากบิ๊กบอส "อธิพร ลิ่มเจริญ" ระบุภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส ตุน Backlog เกือบ 1,800 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ดันรายได้เติบโตตามเป้าหมาย 20% พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตมั่นคง
นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ใน 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 828.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 362.94 ล้านบาท หรือ 77.92% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.57 ล้านบาท หรือ 92.38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต มาจากการทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ ในธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) และธุรกิจโซลูชั่นด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน (Energy) จากการได้รับงานโครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้บางส่วนภายในปีนี้
"ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานในทิศทางบวก สะท้อนได้จากผลงานในครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นการตอกย้ำการทำธุรกิจของ I2 ว่ายังคงเติบโตตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้จาก Backlog ที่ส่งมอบงานโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ" นายอธิพร กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2567 มั่นใจว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากการทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานในมือ (Backlog) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนร่วมประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 6,455 ล้านบาท และมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่ารวมงานประมูล ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปี 2567 มีรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 20%