"วงษ์สยามก่อสร้าง" ปิลดีลขายหุ้นกู้ครั้งแรก สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน เร่งเครื่องเสริมแกร่งด้านเงินทุน ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการด้านน้ำแบบครบวงจรในประเทศไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 9, 2024 10:53 —ThaiPR.net

บจก.วงษ์สยามก่อสร้าง หรือ VSK ปิดดีลการขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรก จำนวน 4 ชุด มูลค่ารวม 1,955.8 ล้านบาท นักลงทุน รายใหญ่ตอบรับเป็นอย่างดี ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ ผ่านกิจการที่มีความมั่นคง และมีศักยภาพในการเติบโต จากการเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการด้านน้ำแบบครบวงจรในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนผ่าน 2 ธุรกิจหลัก เตรียมพร้อมสู่แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต

นายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด หรือ VSK ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำและธุรกิจก่อสร้างสาธารณูปโภคด้านน้ำแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปิดการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกของบริษัทฯ โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระยะยาว ระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด มูลค่ารวม 1,955.8 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.25% หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.65% หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% และหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.15% กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายครั้งนี้ ได้การตอบรับจากนักลงทุนรายใหญ่ที่ให้ความสนใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ เป็นอย่างดี หลังเปิดให้จองซื้อในวันที่ 5-7 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา แสดงให้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองหาการลงทุนในหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่อยู่ระหว่างฟื้นตัว นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ ได้รับจัดอันดับเครดิตเรตติ้งที่ "AAA(tha)" จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นอันดับเครดิตสูงสุดสำหรับตราสารหนี้ที่ออกในประเทศไทย การันตีถึงศักยภาพของผู้ค้ำประกันคือ Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ซึ่งเป็นกองทุน (Trust Fund) ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank หรือ ADB) มีสถานะทางการเงินและผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งมาก ขณะเดียวกัน ยังสะท้อนให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ VSK รวมถึงมีความเชื่อมั่นว่า บริษัทฯ จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในฐานะผู้นำธุรกิจบริหารจัดการระบบน้ำแบบครบวงจรในประเทศไทย

บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้เป็นเงินทุนในการลงทุนและก่อสร้างระบบท่อน้ำดิบในภาคตะวันออก อย่างไรก็ตาม การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสู่การขยายธุรกิจเท่านั้น ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

"การออกหุ้นกู้เป็นครั้งแรกของ VSK ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จ ตลอดจนความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานธุรกิจบริหารจัดการระบบน้ำที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ธุรกิจของบริษัทฯ มีโอกาสเติบโตอีกมาก สอดคล้องไปกับแนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมการก่อสร้างจากแรงหนุนการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับ EEC ซึ่งจะกระตุ้นให้เอกชนเกิดการลงทุนในส่วนของนิคมอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดความต้องการสาธารณูปโภคด้านน้ำเพิ่มขึ้นตามไปด้วย" นายอนุฤทธิ์ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ VSK กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้วางแผนการดำเนินธุรกิจในอีก 1-3 ปีข้างหน้า ได้แก่ ธุรกิจบริหารจัดการน้ำ มีแผนการขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจบริหารจัดการน้ำตามสัมปทานโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก จากกรมธนารักษ์ (พื้นที่ EEC) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดระยองและชลบุรี ทำให้สามารถขยายการจำหน่ายน้ำดิบแก่ผู้ใช้น้ำอุปโภค-บริโภค เช่น การประปาส่วนภูมิภาค และผู้ใช้น้ำอุตสาหกรรม เช่น นิคมอุตสาหกรรมหรือโรงงานในภาคตะวันออกในพื้นที่ EEC ที่มีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนของภาคเอกชนและการสนับสนุนของภาครัฐ

ส่วนธุรกิจงานก่อสร้าง บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตโดยมุ่งเน้นการเข้าร่วมประมูลงานในภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้มีคุณสมบัติในการรับจ้างงานก่อสร้าง ชั้นที่ 1 ของการประปาส่วนภูมิภาคและการรับจ้างงานก่อสร้าง ชั้นที่ 1 (พิเศษ) ของกรมบัญชีกลางสาขางานชลประทาน และในด้านการก่อสร้าง บริษัทฯ ยังได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001 : 2015 จึงมั่นใจได้ว่าการดำเนินงานของบริษัทจะมีคุณภาพและตรงตามมาตรฐาน โดยปัจจุบัน VSK มีมูลค่างานในมือ (Backlog) จากธุรกิจก่อสร้างสาธารณูปโภคด้านน้ำ รวม 1,334 ล้านบาท โดยเป็นงานจากภาครัฐ 100%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ