กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--ชินแซทเทลไลท์
บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) (SATTEL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการหลักแต่เพียงผู้เดียวประจำประเทศไทย (National Service Operator - NSO) อย่างเป็นทางการ
ดร. ดำรง เกษมเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ชินแซทเทลไลท์ กล่าวว่า “บริษัทฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้แต่งตั้งให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการหลัก หรือ National Service Operator (NSO) ของไอพีสตาร์ประจำประเทศไทย ซึ่งทางบมจ.ทีโอที มีศักยภาพและความพร้อมสูงสุดในฐานะผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินแผนการตลาดและให้บริการไอพีสตาร์ผ่านพันธมิตรผู้ร่วมให้บริการเดิม (Service Provider) 12 ราย โดยใช้ระบบสถานีภาคพื้นดินไอพีสตาร์ร่วมกับดาวเทียมไทยคม (1เอ, 2, 3) เป็นการชั่วคราว จนถึงในปัจจุบันมีจำนวนเทอร์มินัล (User Terminal) มากกว่า 20,000 ชุด พร้อมกันนี้บริษัทฯ จะส่งมอบพันธมิตรผู้ร่วมให้บริการเดิมและลูกค้าให้กับบมจ. ทีโอที เป็นผู้ดำเนินการต่อไป นอกจากนี้บริษัทฯ จะทำการโอนย้ายการใช้งานของลูกค้าดาวเทียมไทยคม (1เอ, 2, 3) ไปยังดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ภายใต้การให้บริการของบมจ. ทีโอที”
“ในการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทฯ และบมจ. ทีโอที ได้จัดตั้งคณะกรรมการด้านการตลาด (Marketing Committee) โดยมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการตลาด เพื่อเน้นคุณภาพการให้บริการ และนำเสนอรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด โดยที่บริษัทฯ มีหน้าที่ในการควบคุมดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ตลอดจนสถานีภาคพื้นดินไอพีสตาร์ (IPSTAR Gateway) จากประสบการณ์ด้านธุรกิจดาวเทียมอันยาวนาน บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะให้คำปรึกษาแก่บมจ. ทีโอทีเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานต่างๆ ของระบบไอพีสตาร์” ดร.ดำรง กล่าวเสริม
คุณธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทีโอที กล่าวว่า “บมจ. ทีโอทีพร้อมที่จะเป็นผู้ให้บริการหลักไอพีสตาร์ในประเทศไทย เพราะทางบมจ. ทีโอทีมีความมั่นใจในเทคโนโลยีการสื่อสารไอพีสตาร์ว่าสามารถนำไปใช้งานภายในองค์กรต่างๆ จนถึงผู้ใช้ทั่วไป โดยมีกลุ่มผู้ใช้หลัก ดังนี้
1) บมจ. ทีโอทีมีแผนนำไอพีสตาร์ไปใช้ทดแทนเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะ ในพื้นที่ที่ห่างไกล ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานกว่า 180,000 เลขหมาย รวมถึงการวางเครือข่ายการสื่อสารในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยพิบัติ เพราะหากเกิดภัยพิบัติจะยังคงสามารถใช้งานบริการเครือข่ายสื่อสารดาวเทียมไอพีสตาร์ต่อไปเมื่อเทียบกับเครือข่ายสื่อสารภาคพื้นดิน
2) บมจ. ทีโอทีจะนำเครือข่ายสื่อสารดาวเทียมไอพีสตาร์ไปให้บริการยังกลุ่มผู้ใช้การสื่อสารภายในองค์กร (Intranet) ของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ เช่น กระทรวงศึกษาที่ให้บริการไปแล้วกว่าจำนวน 11,000 สถานี เป็นต้น
3) เนื่องจากความต้องการการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มขึ้นมาก บมจ. ทีโอทีจึงมีแผนนำเครือข่ายการสื่อสารไอพีสตาร์ไปให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรวมทั้งบริการมัลติมิเดีย (สื่อสารภาพเสียงและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง) แก่กลุ่มผู้ใช้ทั่วประเทศ
“ทางทีโอทีหวังว่าไอพีสตาร์จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสารหรือการรับข่าวสารข้อมูลให้มีความเท่าเทียมกันทั่วประเทศ อีกทั้งเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้งานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มมากขึ้นในประเทศอีกด้วย” คุณธีรวิทย์ กล่าวเสริม
หลังจากประสบผลสำเร็จในการส่งดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ขึ้นสู่วงโคจรในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางบมจ. ชินแซทเทลไลท์ ได้ดำเนินการเปิดสถานีบริการภาคพื้นดินไอพีสตาร์ (IPSTAR Gateway) จำนวน 6 แห่งใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย (2 แห่ง) นิวซีแลนด์และพม่า สำหรับสถานีบริการภาคพื้นดินไอพีสตาร์ในประเทศไทย ที่จะให้บริการแก่ลูกค้าของบมจ.ทีโอทีนั้น ตั้งอยู่ที่สถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม ณ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 บริษัทฯ จะติดตั้งและเริ่มเปิดให้บริการสถานีภาคพื้นดินทั้งหมด 18 แห่ง 14 ประเทศ ให้เสร็จสิ้นจนครบ
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายนักลงทุนและประชาสัมพันธ์ บมจ. ชินแซทเทลไลท์
Shin Satellite contact: Ms. Nuchsara Thoundthad, Public Relations,
Shin Satellite Plc, 41/103 Rattanathibet Rd., Nonthaburi 11000, Thailand.
Tel. (66 2) 591-0736 to 49 Ext. 8493 Fax. (66 2) 591-0724, email: nuchsarat@thaicom.net--จบ--