TKN อวดผลงานครึ่งแรกปี 67 กวาดยอดขาย 2,783.3 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิพุ่ง 55.9% ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 14, 2024 16:01 —ThaiPR.net

TKN อวดผลงานครึ่งแรกปี 67 กวาดยอดขาย 2,783.3 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิพุ่ง 55.9% ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น

TKN อวดผลงานครึ่งแรกปี 67 กวาดยอดขาย 2,783.3 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิพุ่ง 55.9% ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น เตรียมรุกหนักขยายตลาดยุโรป รับเทรนด์บริโภคสาหร่าย เดินหน้ากลยุทธ์สร้าง Brand Love

บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN โชว์ผลงานไตรมาส 2/67 ทำรายได้จากการขาย 1,416.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% และมีกำไรสุทธิ 268.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.5% ดันผลงานงวด 6 เดือนแรกปี 67 มีรายได้จากการขาย 2,783.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 562.6 ล้านบาท ด้านบอร์ดประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.30 บาทต่อหุ้น มั่นใจผลงานทั้งปีเติบโต ไม่น้อยกว่า 10% เดินหน้าสร้างแบรนด์และทำการตลาดต่อเนื่อง ผลักดันให้แบรนด์ ?เถ้าแก่น้อย? ขึ้นแท่น Brand Love พร้อมรับเทรนด์บริโภคสาหร่าย รุกหนักเตรียมขยายตลาดกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก และสหราชอาณาจักร

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า ?เถ้าแก่น้อย? เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ ทำรายได้จากการขาย 1,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 268.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสามารถทำอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ในระดับ 18.9%

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-มิถุนายน) มีรายได้จากการขาย 2,783.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 562.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากความสำเร็จของการดำเนินนโยบาย Go Firm พัฒนาปรับองค์กรให้กระชับ ลดต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย (Productivity) ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการยอดขาย (Revenue Management) เพิ่มขีดความสามารถการทำกำไรจากภายในองค์กร และมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนต่อสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อเตรียมรับราคาต้นทุนสาหร่ายใหม่ที่จะเริ่มรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567

ขณะเดียวกัน การเติบโตของรายได้จากตลาดต่างประเทศมาจากการขยายช่องทางการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในประเทศหลัก ได้แก่ อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซียและจีน อีกทั้ง ยังสามารถเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ในประเทศรองอีกหลายประเทศ เช่น แคนาดา เกาหลีใต้ ไต้หวัน และประเทศในแถบยุโรปที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดทางออนไลน์และออฟไลน์กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนำเสนอสินค้าใหม่ อาทิ สาหร่ายเถ้าแก่น้อยเทมปุระ x น้ำพริกป้าแว่น สาหร่ายอบรสเกลือชมพู และสาหร่ายอบรสมะเขือเทศ ทำให้ผู้บริโภคเข้ามาในกลุ่มขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการขายในปัจจุบันมาจากในประเทศอยู่ที่ 35% และตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 65%

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาจากงบเฉพาะกิจการและอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2567 (มกราคม-มิถุนายน) ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 กันยายน 2567 สะท้อนศักยภาพฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวว่า แม้มีปัจจัยกดดันมาจากต้นทุนราคาวัตถุดิบหลักสาหร่ายที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในฤดูกาลสาหร่ายงวดใหม่ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงอัตราการเติบโตด้วยเป้ายอดขายปีนี้ไม่น้อยกว่า 10% ด้วยการบริหารจัดการยอดขาย (Revenue Management) บริหารพอร์ตสินค้าและช่องทางการขายที่มีกำไรดี (Product Mix and Channel Mix) ให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ จะมุ่งขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ เช่น สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักที่สร้างการเติบโตได้ดีและถือเป็นการปรับสมดุลของตลาดจีนที่มีอัตราเติบโตลดลงจากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนขยายตลาดในประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ได้แก่ กลุ่มประเทศเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปตะวันตก และ กลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร (UK) เพื่อตอบรับเทรนด์การบริโภคสาหร่ายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก

ขณะที่ตลาดในประเทศคาดว่าจะได้รับผลดีจากจำนวนนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากถึง 33 ล้านคน เป็นปัจจัยบวกต่อยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน TKN เดินหน้าผลักดันการบริโภคภายในประเทศด้วยการกระจายสินค้าให้มากขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย (Product Mix) เช่น สินค้าในกลุ่มสาหร่ายอบและกลุ่มทอด ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง พร้อมมุ่งสร้างแบรนด์และการทำการตลาด รวมถึงออกแคมเปญโปรโมชั่นใหม่ๆ ผลักดันให้แบรนด์ ?เถ้าแก่น้อย? ก้าวขึ้นแท่นในการเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครัก ?Brand Love? สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายในประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ