กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) สรุปผลสำเร็จการเชื่อมโยงเครือข่ายโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม (คพอ.ดีพร้อม) ตั้งแต่ปี 2523 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 44 ปี จำนวน 412 รุ่น ประกอบไปด้วย ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ และทายาทธุรกิจ จำนวน 13,080 ราย ที่ผ่านการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั่วประเทศ ให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกด้าน ด้วยการนำเสนอหลักสูตรเนื้อหาที่ครบวงจร โดยวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายกันตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 165 ล้านบาท
นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์แข่งขันในตลาดโลกที่มีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายต่าง ๆ ให้กับผู้ประกอบการที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม และการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการทั่วประเทศ และเมื่อโลกเปลี่ยนอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการก็ต้องมีการปรับเพื่อให้พร้อมรับกับอนาคต ดังนั้น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินการตามนโยบาย RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต ผ่านกลยุทธ์การปรับตัวให้ก้าวทันอุตสาหกรรมยุคใหม่ (RESHAPE THE INDUSTRY) ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมทั้งในด้านการพัฒนาบุคลากร (People) กระบวนการผลิต (Process) และการจัดทำแผนกลยุทธ์องค์กร (Strategic Planning) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มและประสิทธิภาพกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้ดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวผ่านโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมดีพร้อม (คพอ.ดีพร้อม) ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2523 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 44 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการทั่วประเทศ ให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกด้าน ด้วยการนำเสนอหลักสูตรเนื้อหาที่ครบวงจร โดยวิทยากรที่มีความรู้ที่ผู้ประกอบการสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจตนเอง เพื่อสร้างความพร้อมที่พัฒนาและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ตลอดจนรู้หลักในการบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอยู่รอดและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ คพอ.ดีพร้อม คือ การที่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการและสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกันตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบันมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปัจจุบัน คพอ.ดีพร้อม มีการเชื่อมโยงเครือข่ายไปแล้ว 412 รุ่นทั่วประเทศ ผ่าน 5 หลักสูตร ประกอบไปด้วย กิจกรรมการเสริมสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (Achievement Motivational Training : AMT) การบริหารจัดการในมิติต่างๆ (Business Management) การจัดทำแผนกลยุทธ์องค์กร (Strategic Planning) การเสริมสร้างพลังความเป็นผู้นำ (Leadership) ตลอดจนการการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ (Learning and Sharing) ผ่านการศึกษาดูงาน และการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย โดยผลสำเร็จที่ได้ คือ มีผู้ผ่านหลักสูตร คพอ.ดีพร้อม รวมทั้งสิ้น 13,080 ราย แยกเป็นชาย 7,421 ราย หญิง 5,659 ราย และได้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย คพอ.ดีพร้อม ทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 ราย ประกอบด้วย
1..จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย คพอ.ดีพร้อม ในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 17 - 18 พฤษภาคม 2567 ณ Happy Convention Hall ห้างแฮปปี้พลาซ่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร จำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 200 ราย
2. จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย คพอ.ดีพร้อม ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 24 - 25 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานี จำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 300 ราย
3. จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย คพอ.ดีพร้อม ในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 - 26 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 200 ราย
4. จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย คพอ.ดีพร้อม ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 โรงแรมแกรนด์ พาลาสโซ่ พัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 300 ราย
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่านอกจากผู้ประกอบการที่ได้เข้าร่วมโครงการจะได้รับความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดในเชิงธุรกิจได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสามารถสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการให้ครบคลุมทั่วประเทศ เพื่อที่จะสามารถปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเครือข่าย คพอ.ดีพร้อม เกิดการค้าและการลงทุนระหว่างกันภายในเครือข่าย ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 165 ล้านบาท นายภาสกร กล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6869 ต่อ 1272 หรือ ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวได้ที่ www.diprom.go.th หรือwww.facebook.com/dipromindustry