นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กรณีเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางสาย 36 ชนกับรถตู้กู้ชีพของศูนย์เอราวัณ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า จากการตรวจสอบรถกู้ชีพของศูนย์เอราวัณดังกล่าว ได้รับผู้ป่วยสงสัยหัวใจขาดเลือด กำลังนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ ตลอดเส้นทางได้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและเสียงสัญญาณ เมื่อผ่านจุดเกิดเหตุสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง พนักงานขับรถยนต์ศูนย์เอราวัณได้ขับรถต่อไป เพื่อนำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ขณะนั้นรถโดยสารประจำทางสีน้ำเงินได้ชะลอให้ทางกับรถพยาบาลฉุกเฉิน จึงได้ขับรถต่อไป ส่วนรถโดยสารประจำทางสีส้ม (สาย 36) ไม่ได้ชะลอให้ทาง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำคนขับรถพยาบาลส่งโรงพยาบาลราชวิถี ส่วนคนเจ็บที่โดยสารมากับรถพยาบาล นำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และพยาบาลที่มากับรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน ซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เอราวัณ ได้กำชับบุคลากรเรื่องการระมัดระวังขณะขับขี่และเน้นย้ำปฏิบัติมาตรา 75 ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 รถฉุกเฉินมีสิทธิใช้สัญญาณไซเรนตามกำหนดได้ จอดในที่ห้ามจอดได้ ขับรถเกินอัตราความเร็วที่กำหนดได้ ขับรถผ่านสัญญาณจราจรที่ให้หยุดได้ แต่ต้องลดความเร็วตามสมควร แต่ทั้งหมดจะต้องพิจารณาความเหมาะสมว่า ฉุกเฉินจริงหรือไม่ พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ในรถพยาบาล ตลอดจนผู้ร่วมใช้ทางคนอื่น ๆ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณจำเป็นต้องให้ความสำคัญและโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ ศูนย์เอราวัณจะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนการดำเนินการทางคดีนั้น ตำรวจรอให้คนขับรถพยาบาลอาการดีขึ้น ก่อนจะเชิญตัวมาสอบสวนต่อไป