หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ร่วมกับบริษัท มาจิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Majin International Ltd) จัดงานสัมมนาเครือข่ายการแพทย์ ในหัวข้อ ?การรักษา ฟื้นฟูสุขภาพ และ โนวาสเต็ม บีซี? (Regenerative Therapies & NovaStem BC) แนะนำแนวโน้มอนาคตการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ (Regenerative Therapy) สำหรับอุตสาหกรรมเวชศาสตร์ความงามไทย
กรุงเทพ, เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท มาจิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Majin International Ltd) บริษัทการค้าและผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ชั้นนำระดับสากล และผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวสำหรับผลิตภัณฑ์ RevMed NovaStem ในประเทศไทย ร่วมกับหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) จัดงานสัมมนา หัวข้อ ?การรักษา ฟื้นฟูสุขภาพ และ โนวาสเต็ม บีซี? (Regenerative Therapies & NovaStem BC) ณ ห้องบอลรูม โรงแรมปาร์คไฮแอท กรุงเทพ รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและนวัตกรรม เพื่อแลกเปลี่นความรู้ ความก้าวหน้าในเวชศาสตร์ฟื้นฟู และศักยภาพการพัฒนาในอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมความงามในไทย
โดยงานสัมมนาครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ "Bridging Borders" ซึ่งหอการค้าไทย-อิตาเลียน ริเริ่มขึ้นเพื่อเพิ่มความร่วมมือทางการค้าระหว่างสมาชิก และอำนวยความสะดวก เพื่อการส่งเสริมการทำงานร่วมกันทั้งในเชิงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมในประเทศไทย
มร. แดเนียล คว็อก (Mr. Daniel Kwak) คู่ค้าทางธุรกิจ (Partner) บริษัท มาจิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ?ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและความงาม (Beauty and Personal care Products) ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นหนึ่งในตลาดใหญ่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น ยังเป็นปัจจัยหนุนสำหรับประเทศไทย ในการเป็นตลาดสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมด้านเวชศาสตร์ความงาม (Aesthetics Medicine Industry) โดยงานสัมมนาครั้งนี้ จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ เทรนด์อนาคตและความก้าวหน้าล่าสุด ในด้านการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ โดยใช้ โนวาสเต็ม (Novastem)?
ในงานนี้ ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญหลายท่านด้านงานวิจัยเกี่ยวกับสเต็มเซลล์มาร่วมบรรยาย
ดร.นพ. กำพล ศรีวัฒนกุล ประธานกฎบัตรสุขภาพ
ดร.คริส กอนอู คิม (Dr. Chris Gunwoo Kim) คลินิกสเต็มเซลล์ Le Diamant Stemcell โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกาหลี, คลินิกชะลอวัยและศัลยกรรมความงาม ผู้ให้บริการด้านความงามทางการแพทย์ชั้นนำในเกาหลีใต้
การจัดงานในครั้งนี้ ได้เน้นย้ำถึงความโดดเด่นของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางสำหรับการบำบัดฟื้นฟู และนวัตกรรมทางการแพทย์ สัมมนานี้ ไม่เพียงแต่เน้นจุดเด่นของความก้าวหน้าทางนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังเน้นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นประตูสำคัญของการพัฒนาในอนาคตของอุตสาหกรรมการแพทย์ด้านความงามอีกด้วย