เมื่อเร็วๆ นี้ นิตยสารชื่อดังระดับโลก CEOWORLD Magazine ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้อ่านพบว่า ประเทศไทยครองอันดับ 1 ประเทศที่ดีที่สุดที่ควรไปเยือนสักครั้งในช่วงชีวิต (World's Best Countries To Visit In Your Lifetime 2024) ในขณะที่เมื่อต้นปี The Telegraph สื่อใหญ่จากอังกฤษก็เพิ่งจัดให้ประเทศไทยอยู่อันดับ 6 ของโลกในลิสต์ "20 สถานที่ที่ควรไปเที่ยวในปี 2024" ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นแหล่งทำเงินมหาศาลให้แก่ประเทศ ซึ่งแน่นอนว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของไทยย่อมต้องการบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตนี้
วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจบริการชั้นแนวหน้าของไทยในเครือโรงแรมดุสิตธานี อยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยสนใจเรียนทางด้านธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว เมื่อไม่นานมานี้จึงจัดงาน DTC Showtime 2025 'Spot Life' ขึ้นที่วิทยาลัยดุสิตธานี กรุงเทพฯ และศูนย์การศึกษาเมืองพัทยา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักเรียนชั้นม.ปลายที่ยกขบวนกันมาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเกินความคาดหมาย
"อาชีพส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการเป็นอาชีพที่ AI ทดแทนไม่ได้" ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวในช่วงเปิดงาน DTC Showtime 2025 'Spot Life' ที่วิทยาลัยดุสิตธานี กรุงเทพฯ "ในอนาคตมนุษย์อาจมีหุ่นยนต์มาทำงานแทนในหลายๆ ตำแหน่ง แต่อาชีพในอุตสาหกรรมบริการนี้ต้องใช้ความเป็นคน ความรู้สึก และรอยยิ้มซึ่งหุ่นยนต์ทำแทนไม่ได้ เราจึงมีบทบาทสำคัญในการฝึกฝนผู้เรียนให้พร้อมกับการใช้ชีวิตและพร้อมกับการทำงานร่วมกับมนุษย์
วิทยาลัยดุสิตธานีเปิดมานาน 30 กว่าปีโดยปณิธานของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งเครือโรงแรมดุสิตธานี โดยในสมัยนั้นท่านเล็งเห็นว่า เมื่อกลุ่มดุสิตฯ รับพนักงานมาก็ต้องฝึกฝนใหม่อยู่ดี ดังนั้นจึงเห็นควรที่จะเปิดสถาบันสอนทางด้านนี้โดยตรงเอง เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ผลิตบุคลากรคุณภาพป้อนให้ทั้งกลุ่มดุสิตและผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้ด้วย เราจึงเป็นหนึ่งในไม่กี่สถาบันการศึกษาที่มีโรงแรมเป็นของตนเองให้นักศึกษาได้ลงมือทำ ได้เล่น และได้เรียน"
งาน DTC Showtime 2025 'Spot Life' เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกสนานและสาระน่ารู้มากมายที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้ว่า อาชีพและการทำงานในอุตสาหกรรมการบริการนั้นเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นสาขาการจัดการโรงแรม (หลักสูตรไทย) และสาขาการจัดการการบริการ (หลักสูตรนานาชาติ) ที่พานักเรียนที่เข้าร่วมงานไปสัมผัสบรรยากาศการทำงานยังสถานประกอบการจริง ได้แก่ โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ ในเครือโรงแรมดุสิตธานีที่ตั้งอยู่ข้างวิทยาลัย พร้อมนำเสนอเวิร์กช็อปเกี่ยวกับสัมผัสทั้งห้าที่จำเป็นต่อการทำงานและสร้างความประทับใจในโรงแรมโดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญของสาขา
ในขณะที่สาขาศิลปะการประกอบอาหาร (หลักสูตรไทย) และสาขาศิลปะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ (หลักสูตรนานาชาติ) ได้เชิญเซเลบริตี้เชฟชื่อดังที่เป็นศิษย์เก่าของวิทยาลัยดุสิตธานี ได้แก่ เชฟอาร์-ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์ เชฟเตย-พัดชา กัลยาณมิตร เชฟปาร์ค-ภัทรวิทย์ จันทร์ไทย เชฟรวย-อิทธิกร ตั้งวัฒนารัตน์ เชฟเป้-ธีรนัย จินดานุภาจิตต์ เชฟภูรินท์ พัฒนวิริยะวาณิช รวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหารที่กำลังมาแรงอย่าง เคน-ปรัตถกร เตชะธรรมนุกูล มาจัดเวิร์กช็อปการทำขนมและอาหารให้แก่ผู้เข้าร่วมงานอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการจัดเวิร์กช็อปให้แก่ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาร่วมงานด้วย เพื่อที่ผู้ปกครองจะได้เห็นว่า การเรียนของบุตรหลานในรั้ววิทยาลัยดุสิตธานีเป็นอย่างไร
วิทยาลัยดุสิตธานีรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นผู้สนใจเข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม เพราะแสดงให้เห็นว่า การจัดงานครั้งนี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยอยากก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการไทยอย่างแท้จริง