ข้อมูลล่าสุดจาก Nielsen Ad Intel เผยยอดเม็ดเงินโฆษณาในกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมไฮเอนด์ทั่วเอเชีย โดยในครึ่งปีแรกของ 2567 โตขึ้น 12% จากครึ่งปีหลังของ 2566 โดยตลาดสำคัญประกอบด้วยฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และประเทศไทย ซึ่งมียอดเม็ดเงินโฆษณารวมกันกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประเทศไทยเป็นผู้นำในการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาในกลุ่มแบรนด์เนมไฮเอนด์ ด้วยการเพิ่มขึ้นถึง 214% ตามด้วยเกาหลีใต้ที่ 24% และอินโดนีเซียที่ 6%
แบรนด์ที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเอเชีย 5 อันดับแรก คือ
5 อันดับแบรนด์ที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด แยกในแต่ละตลาด
- Hong Kong: Chanel, Cartier, Christian Dior, Rolex, Swarovski
- Indonesia: Rolex, Audemars Piguet, La Mer, Chanel, Coach
- Malaysia: Rolex, Cartier, Chanel, Gucci, Fendi
- Philippines: Rolex, Hermes, Jo Malone, Polo Ralph Lauren, Gucci
- Singapore: Rolex, Chanel, Christian Dior, Gucci, Hermes
- South Korea: Chanel, Christian Dior, Gucci, BVLGARI, Prada
- Thailand: Chanel, Christian Dior, Swarovski, BVLGARI, Coach
เมื่อแยกดูสื่อที่กลุ่มแบรนด์เนมไฮเอนด์มีการใช้ในการทุ่มเม็ดเงินโฆษณา พบว่าในแต่ละตลาดมีความแตกต่างกันไป แต่ที่น่าสนใจคือประเทศไทย กลุ่มแบรนด์เนมไฮเอนด์ใช้เงินในสัดส่วนกว่า 82% ทุ่มให้กับสื่อนอกบ้าน (Out of home) สิ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยแต่ละแบรนด์ใช้ความครีเอทีฟ พวกดึงดูดสายตาผู้พบเห็นสื่อกลางแจ้ง โดยข้อมูลจาก Nielsen Consumer & Media View (CMV) พบว่า คนในกรุงเทพฯและปริมณฑล กว่า 91% เข้าถึงหรือสังเกตเห็นสื่อกลางแจ้ง ทำให้สื่อช่องทางนี้เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนักช้อปในเมือง
นอกจากนี้จากผลการศึกษาจาก Nielsen Media Analytics ยังเน้นย้ำถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของผู้บริโภคต่อสินค้าแบรนด์เนมไฮเอนด์ในประเทศไทย และจากผลการศึกษายังพบว่าถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างผู้บริโภคแบรนด์สินค้าหรูกับสื่อนอกบ้าน โดยส่วนใหญ่ผู้บริโภคสินค้าแบรนด์เนมไฮเอนด์ ตอบว่า สื่อนอกบ้านว่าเป็น 'ช่องทางโฆษณาที่น่าเชื่อถือที่สุด' และ 'ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด'
Arnaud Frade ประธานบริหาร Nielsen Asia กล่าวว่า "การโตแบบก้าวกระโดดของการใช้จ่ายโฆษณาสำหรับสินค้าแบรนด์เนมไฮเอนด์ในตลาดเอเชีย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินค้าแบรนด์เนมที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ ข้อมูลของเราไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่แบรนด์เหล่านี้ทุ่มในสื่อนอกบ้าน แต่ยังเน้นย้ำถึงบทบาทที่ไม่เหมือนใครของผู้บริโภคที่มีต่อการตัดสินใจซื้อ ในยุคที่เศรษฐกิจชลอตัว ผู้บริโภคมีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น การทำให้มั่นใจว่าการลงทุนด้านสื่อมีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งและกำลังกลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญสำหรับกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมที่ลงทุนในข้อมูลเชิงลึกที่ดีขึ้น"
รัญชิตา ศรีวรวิไล, Nielsen Thailand Commercial Lead กล่าวเสริมว่า "ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างสินค้าแบรนด์เนม การรู้ว่าจะลงทุนโฆษณาที่ไหนและอย่างไรนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ข้อมูลของเราช่วยให้แบรนด์สามารถตัดสินใจได้ดีมากขึ้น ทำให้มั่นใจว่ากลยุทธ์การตลาดของเราไม่เพียงแต่เข้าถึงตรงกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังคงอยู่เหนือคู่แข่งด้วย"
แม้ว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกกลุ่มแบรนด์เนมไฮเอนด์ในเอเชีย แต่คำแนะนำจากครอบครัวและเพื่อน ๆ ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภค Gen Z และ Gen Y
*Source: Nielsen Ad Intel - Jan - Jun 2024