นายณรงค์ ตาปสนันทน์ ผู้อำนวยการเขตบางแค กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตเขตบางแคจัดซื้อจอ LED สูงกว่าราคาตลาดและสินค้าไม่ตรงกับคุณลักษณะเฉพาะที่กำหนดว่า สำนักงานเขตบางแคได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อดำเนินการจัดซื้อชุดนวัตกรรมการเรียนการสอน 24 ชุด วงเงินงบประมาณ 8,568,000 บาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - bidding) ซึ่งมีผู้สนใจดาวน์โหลดเอกสารและยื่นเสนอราคา จำนวน 3 ราย บริษัทที่ 1 เสนอราคา 8,200,000 บาท บริษัทที่ 2 เสนอราคา 8,526,000 บาท และบริษัทที่ 3 เสนอราคา 8,541,000 บาท โดยคณะกรรมการพิจารณาผลฯ ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานการเสนอราคาและพิจารณาคุณสมบัติทั้ง 3 บริษัท ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน และได้พิจารณาตัวอย่างพัสดุเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 67 ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตบางแค ซึ่งผลการพิจารณาพบว่า ทั้ง 3 บริษัทผ่านคุณสมบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่กำหนดไว้ และเมื่อพิจารณาราคาของผู้เสนอราคาปรากฏว่า บริษัทที่ 1 เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้บริษัทที่ 1 เป็นผู้ชนะการเสนอราคา จากนั้นคณะกรรมการพิจารณาผลฯ ได้ต่อรองราคา โดยบริษัทที่ 1 ยินดีลดราคาลงอีก 4,000 บาท คงเหลือ 8,196,000 บาท
สำหรับข้อสังเกตราคาที่จัดซื้อสูงกว่าราคาตลาด นั้น สเปกที่สำนักงานเขตฯ กำหนดเป็นจอแสดงภาพ LED แบบ Interactive Touch Screen ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหน้าจอระบบสัมผัสแบบ Capacitive ที่มีความเหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอน ซึ่งสามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้รวดเร็วและการใช้งานมีความเสถียร โดยสำนักงานเขตฯ ได้กำหนดราคากลางของจอแสดงภาพ LED แบบ Interactive Touch Screen ที่ต่ำกว่าราคาตามท้องตลาดโดยสืบราคาจาก 3 ร้าน และสืบราคาจากผู้ประกอบการจอแสดงภาพ LED แบบ Interactive Touch Screen หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ซึ่งราคาจอภาพตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ราคาจะอยู่ที่ 300,000 - 390,000 บาท โดยจะเป็นราคาสำหรับจอแสดงผลพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 75 นิ้ว เท่านั้น ขณะที่สเปกของสำนักงานเขตฯ ประกอบด้วย จอแสดงภาพ LED พร้อมระบบสัมผัส ขนาด 75 นิ้ว แบบ Interactive Touch Screen พร้อมทั้งกระดานดำแม่เหล็กติดกับจอแสดงภาพ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา นอกจากนั้น ยังมีองค์ประกอบอื่นด้วย ได้แก่ กล้องถ่ายทอดสด เครื่องเสียงเคลื่อนที่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมไมโครโฟน 1 คู่ และชุดขาตั้งจอ Touch Screen ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ประเมินราคาจากข้อมูลที่กล่าวมาและใช้ราคาเฉลี่ยตามวิธีการที่กฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างได้กำหนดแนวทางไว้
อย่างไรก็ตาม มีบริษัทผู้เสนอราคาที่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการเสนอราคารายหนึ่ง ขออุทธรณ์ผลการประกาศผู้ชนะการเสนอราคา และสำนักงานเขตฯ ได้มีหนังสือถึงคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนกรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณาในประเด็นที่มีผู้อุทธรณ์ ดังนี้ ประเด็นที่ 1 กล่าวอ้างว่า ผู้ชนะการเสนอราคาเสนอผลิตภัณฑ์ชุดนวัตกรรมการเรียนการสอนที่อาจไม่สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะฯ อันเป็นสาระสำคัญในการเสนอราคา ประเด็นที่ 2 กล่าวอ้างว่า ผู้ชนะการเสนอราคาเป็นนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือและอาจส่งผลต่อการรับประกันสินค้า และประเด็นที่ 3 กล่าวอ้างว่า การพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ขัดกับมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน ได้พิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์และตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีนี้ข้อกล่าวอ้างของผู้อุทธรณ์ในประเด็นที่ 1 ไม่รับประเด็นอุทธรณ์ไว้พิจารณาและข้อกล่าวอ้างของผู้อุทธรณ์ในประเด็นที่ 2 และ 3 ซึ่งเป็นสาระสำคัญฟังไม่ขึ้น ดังนั้น อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น สำนักงานเขตฯ จึงสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนต่อไป ตามนัยมาตรา 119 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ โดยสำนักงานเขตฯ ได้ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 67 และส่งมอบพัสดุภายใน 60 วัน ซึ่งอยู่ระหว่างการบริหารสัญญา ปัจจุบันยังไม่มีการส่งมอบชุดนวัตกรรมการเรียนการสอน 24 ชุดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้กำชับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุให้ใช้ความละเอียด รอบคอบ ในการตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักฐานที่ตกลงกันไว้ โดยต้องทดลอง หรือตรวจสอบให้ครบถ้วนทุกประเด็น