โครงการนี้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 4.46 ล้านตันใน 25 ปี
เอสพี กรุ๊ป (เอสพี) ประกาศเปิดตัวโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นที่เกษตรกรรม (Agrovoltaic) ที่มีกำลังการผลิต 240 เมกะวัตต์ (MWp) ณ เมืองฮุ่ยโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ซึ่งนับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของเอสพีสำหรับโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (PV) ในประเทศจีน เพื่อบูรณาการพลังงานสะอาดเข้ากับภาคเกษตรกรรม
โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตฮุ่ยตงและเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบรวมศูนย์ขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าในมณฑลกวางตุ้ง โดยมีกำหนดการเริ่มดำเนินงานแบบเต็มรูปแบบภายในสิ้นปี 2567 โครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 660 เอเคอร์ และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 240 เมกะวัตต์ (MW) ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าสีเขียวได้ประมาณ 7.5 พันล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ในอีก 25 ปีข้างหน้า พร้อมช่วยลดการใช้ถ่านหินลงได้ 920,000 ตัน รวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนได้ 4.46 ล้านตัน
โครงการที่เมืองฮุ่ยโจว ได้ผสานการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับการทำการเกษตรเพื่อส่งเสริมการใช้ที่ดินอย่างหลากหลายและเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ การส่งเสริมการผลิตพลังงานสีเขียว และความสมดุลทางระบบนิเวศ
นาย Michael Zhong กรรมการผู้จัดการ เอสพี กรุ๊ป ประจำประเทศจีน กล่าวว่า "บริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area: GBA) มีจำนวนชั่วโมงแดดสูง (Peak Sun Hours) แต่ถูกจำกัดด้วยทรัพยากรที่ดินที่จำกัด จึงทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเอสพี กรุ๊ป ด้วยความเชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการนำโซลูชันพลังงานหมุนเวียนแบบบูรณาการมาปรับใช้ เราจึงมั่นใจว่าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในฮุ่ยโจวจะช่วยตอบสนองความต้องการพลังงานสีเขียวในเขตอ่าว Greater Bay และมีส่วนสนับสนุนความก้าวหน้าของจีนในด้านการเกษตรคาร์บอนต่ำและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้"
เอสพี ได้นำเสนอรูปแบบการลงทุนและการปรับใช้ที่หลากหลายสำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศจีน ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบบนดิน ระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาไปถึงโครงข่ายไฟฟ้า ระบบการผลิตเพื่อใช้เอง และระบบกักเก็บพลังงานตามความต้องการ ครอบคลุมภูมิภาคต่างๆ ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ทั้งในมณฑลกวางตุ้ง ซานตง เจียงซู และเจ้อเจียง จนถึงปัจจุบัน SP ได้รับโครงการโซลาร์ขนาด 1.45 กิกะวัตต์ในประเทศจีน โดยมีโครงข่ายโซลูชันพลังงานที่ยั่งยืนครอบคลุม 18 จังหวัดรวมถึงเทศบาล ซึ่งเน้นไปที่เขตการค้าและนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก
ทั้งนี้สำหรับในประเทศไทย เอสพี มีโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่กำลังดำเนินการและก่อสร้างร่วมกับพันธมิตรหลัก อาทิ บจก.เอเชีย คอมโพสิต แมททีเรียล (Asia Composite Material) บริษัทคอมแพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล (Compact International) บมจ.มาลี กรุ๊ป และบริษัทสยามอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ SAICO อีกทั้งเอสพี ยังมีโครงการพลังงานแสงอาทิตย์อื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมมากกว่า 200MWp ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ เอสพีประสบความสำเร็จในการริเริ่มโครงการระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการฯ โซนซี ด้วยความร่วมมือกับบริษัท บ้านปู เน็กซ์ (Banpu NEXT) รวมทั้งได้มีการลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรังสิตเพื่อนำโซลูชันพลังงานแบบบูรณาการที่ยั่งยืนของเอสพีมาปรับใช้ให้ครอบคลุมทั้งมหาวิทยาลัย เสริมสร้างความมุ่งมั่นของเอสพีในการพัฒนาโครงการด้านพลังงานสีเขียว