กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
PYLON โชว์ผลงานโค้งแรกปี 51 โดดเด่น กำไรสุทธิ 10.06 ลบ. โต 51.35 % จากปีก่อน "บดินทร์ แสงอารยะกุล” เผยเป็นผลจากงานลงสู่ตลาดมากขึ้น หลังจากชะลอตัว รอความชัดเจนทางด้านการเมืองมานาน มั่นใจสถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี วางหมากเจาะงานฐานรากเพิ่ม เหตุเป็นงานต้นน้ำ ความเสี่ยงโดนเบี้ยวค่าจ้างต่ำ แถมเป็นงานระยะสั้นรับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบผันผวนน้อย เชื่อมีโอกาสหนุนรายได้ปีนี้โต 50% ทะลุ 500-550 ลบ. ส่วนกำไรมีลุ้นสวยกว่าที่คาด
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) PYLON กล่าวถึงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2551 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 154.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10.06ล้านบาท โดยรายได้เพิ่มขึ้น 57.05 %จากไตรมาส 1/2550 ที่มีรายได้ 98.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 51.35% จากกำไรสุทธิ 6.6 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้เป็นผลมาจากมีปริมาณงานลงสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะงานประเภทคอนโดมิเนียม ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
"หลังจากที่เริ่มมีความชัดเจนทางด้านการเมือง งานบางส่วนที่ชะลอไว้ในปีที่แล้ว ก็เริ่มไหลลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะงานภาคเอกชน ส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปีบริษัทมีงานรับเหมาในมือเพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงดังกล่าวเราได้เดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้รับมือกับการแข่งขันที่ยังมีอยู่ในตลาดได้อย่างคล่องตัว รวมถึงควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง จึงสะท้อนให้รายได้และกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างโดดเด่นดังกล่าว"
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ PYLON กล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางธุรกิจในไตรมาสที่ 2 ของปี เชื่อว่ามีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกได้ ตามปริมาณงานที่ลงสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้นดังกล่าว ซึ่งจะเห็นได้จากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จนถึงสิ้นไตรมาส 3 แล้ว มูลค่ารวมกว่า 360 ล้านบาท จึงน่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกได้
ส่วนในครึ่งหลังของปี เชื่อว่างานภาครัฐจะทยอยไหลลงสู่ตลาดชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าสายต่างๆ เมื่อรัฐบาลสามารถคัดเลือกผู้รับเหมางานรถไฟฟ้าได้สำเร็จ ในขณะที่ภาคเอกชนคาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมออกมามากขึ้น จากการที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก ทำให้ผู้ที่จะซื้อบ้านจะหันมาเลือกคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งจะทำให้ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังน่าจะยังดีต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตามก็คือ เสถียรภาพทางการเมือง และ ราคาวัตถุดิบ เช่น น้ำมัน และเหล็กเส้น ที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงนี้ โดยในส่วนของ PYLON ได้เดินหน้าปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะเน้นการหางานฐานรากเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นงานต้นน้ำ ความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้เป็นงานระยะสั้นๆ 2-3 เดือน ทำให้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบไม่มากนัก
เขากล่าวอีกว่า การปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนี้ เชื่อว่าจะผลักดันให้แนวโน้มผลประกอบการของ PYLON ในปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% มาอยู่ที่ 500-550 ล้านบาท ในขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดคาดว่าจะผลักดันให้เพิ่มขึ้นจาก 15% มาอยู่ที่ระดับ 20-25% ได้สำเร็จ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 50 ถึงแม้ต้นทุนจะปรับสูงขึ้น จากความสามารถในการหางานที่ปรับตัวดีขึ้น สังเกตได้จาก Backlog ที่สูงขึ้นจากปีก่อน และการแข่งขันที่เริ่มจะลดลง ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะทำให้ผลกำไรในปีนี้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-4888337 / 02-5549395