เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันการแจก มอบของพรีเมี่ยมถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่แบรนด์ ห้างร้านต่าง ๆ จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยหลาย ๆ แคมเปญก็อาจเป็นการกระตุ้นยอดขายทางอ้อม หรือเรียกว่าเป็นการโปรโมทแบรนด์ องค์กรให้เป็นที่รู้จักผ่านสัญลักษณ์ ข้อความใด ๆ ที่พิมพ์ลงไปบนของพรีเมี่ยมชิ้นนั้น ๆ ขณะที่บางแคมเปญก็เป็นการกระตุ้นยอดขายโดยตรง ในลักษณะของกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จูงใจให้ลูกค้า หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการของแบรนด์เพื่อแลกรับของพรีเมี่ยม จะเห็นได้ว่าแม้รูปแบบแคมเปญการตลาดทั้งสองรูปแบบจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ผลลัพธ์มีความแตกต่างกันชัดเจน โดยแคมเปญในลักษณะของการโปรโมทเอกลักษณ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักผ่านของพรีเมี่ยมนั้นยากที่จะวัดผลในระยะสั้น ขณะที่แคมเปญในรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจในการซื้อสินค้าจากกลุ่มลูกค้านั้นสามารถวัดผล ประเมินผลจากยอดขายได้ทันทีที่แคมเปญสิ้นสุดลง ในบทความนี้จึงได้เลือกนำเอาไอเดียแคมเปญรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งสามารถวัดผลได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มาแนะนำให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกจัดกิจกรรมแจก มอบของพรีเมี่ยมใด ๆ ที่ต้องการวัดผล ประเมินผลภายในระยะเวลาสั้น ๆ
รูปแบบกิจกรรมทางการตลาดในปัจจุบัน
ซื้อสินค้าแบบยกแพ็ค ยกลังเพื่อแลกรับของพรีเมี่ยม ไอเดียกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบแรกที่พบเห็นได้บ่อย และถือว่ากระตุ้นยอดขายในช่วงสั้น ๆ ได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับแบรนด์ ธุรกิจในลักษณะของ Market Store ที่มีการวางจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิดก็คือ การกำหนดเงื่อนไขการซื้อสินค้าแบบยกแพ็ค หรือยกลังเพื่อให้มีสิทธิ์แลกรับของพรีเมี่ยมนั่นเอง ข้อดีของกิจกรรมส่งเสริมการขายลักษณะนี้ก็คือ จะช่วยให้ลูกค้าที่ลังเลในการซื้อสินค้าแบบยกแพ็ค ยกลังตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาจทำให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่ไม่เคยซื้อสินค้าแบบยกแพ็ค ยกลังมาก่อนหันมาเลือกตัดสินใจซื้อสินค้าแบบยกแพ็ค ยกลัง ด้วยเหตุผลที่ว่านอกจากจะช่วยให้ประหยัดขึ้นได้แล้ว ยังทำให้ได้สินค้าพรีเมี่ยมมาใช้งานฟรี ๆ เพิ่มอีกด้วย
ซื้อสินค้า หรือใช้บริการใด ๆ ของแบรนด์ในวันที่กำหนดเพื่อรับของพรีเมี่ยม ไอเดียกิจกรรมส่งเสริมการขายรูปแบบหนึ่งที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในหมู่ธุรกิจบริการก็คือ การกำหนดเงื่อนไขให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้า หรือใช้บริการในวันที่กำหนดมีสิทธิ์รับของพรีเมี่ยมตามแคมเปญของแบรนด์นั่นเอง ข้อดีของกิจกรรมส่งเสริมการขายลักษณะนี้ก็คือ สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาที่ซบเซาได้ค่อนข้างดี สามารถกำหนดวันเวลาที่ต้องการให้ลูกค้ามาซื้อสินค้า หรือใช้บริการได้ชัดเจน แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียตรงที่อาจทำให้ลูกค้าขาจรในช่วงวันอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กำหนดในเงื่อนไขนั้นหดหายไป เนื่องจากต้องการรอซื้อสินค้า หรือใช้บริการในวันที่กำหนดแทนเพื่อที่จะได้รับของพรีเมี่ยมนั่นเอง
แจกหรือมอบของพรีเมี่ยมให้แก่ลูกค้าที่สะสมคะแนนสมาชิกได้ถึงเกณฑ์ อีกหนึ่งรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ค่อนข้างคลาสสิค และใช้กระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังค่อนข้างยืดหยุ่นในการกำหนดเงื่อนไขเพื่อกระตุ้นยอดให้ตรงตามความต้องการของแบรนด์ก็คือ การแจก มอบของพรีเมี่ยมใด ๆ ให้กับลูกค้าที่สะสมคะแนนสมาชิกได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดนั่นเอง โดยแคมเปญส่งเสริมการขายลักษณะนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบของการนำคะแนนสะสมไปแลกรับของพรีเมี่ยมตามมูลค่าที่แบรนด์กำหนดไว้ ซึ่งเป็นรูปแบบยอดนิยมที่ห้างร้านต่าง ๆ นิยมใช้เสมอไป โดยอาจเป็นในลักษณะของการแจกมอบในรูปแบบของสมนาคุณแก่ลูกค้าที่มีคะแนนสมาชิกถึงเกณฑ์ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยที่ลูกค้ายังสามารถใช้คะแนนไปกับกิจกรรมการตลาด แลกคูปอง ส่วนลดอื่น ๆ ได้ การกำหนดเงื่อนไขได้อย่างยืดหยุ่นดังกล่าวนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าในการซื้อสินค้า บริการใด ๆ ของแบรนด์ เพื่อสะสมคะแนนสมาชิกมากขึ้น และมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายทั้งในระยะสั้น ๆ และในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
สามารถติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ https://xn--22cjab2g6avaicg1jsc6bb8owa6j.com