รู้หรือไม่ว่าจากสถิติที่เปิดเผยโดยกรมสุขภาพจิต ณ ปัจจุบัน พบว่าคนไทยกว่าร้อยละ 40 กำลังเผชิญวิกฤตที่เรียกว่า "ภาวะนอนไม่หลับ" สมองไม่หยุดคิด จนทำให้ไม่สามารถข่มตาลงได้! ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่กำลังพังนาฬิกาชีวิตของคนรุ่นใหม่ก็คือ ความเครียดที่สะสมโดยไม่รู้ตัว คนส่วนใหญ่ในวัยทำงานต่างกำลังเผชิญกับอาการนอนไม่หลับ เพราะสมองไม่หยุดคิดกันอย่างถ้วนหน้า นี่คือหนึ่งในสัญญาณสุขภาพที่เกิดจากภาวะเครียดสะสม ใครที่ร่างกายกำลังแสดงอาการอ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน ไม่มีสมาธิ จนส่งผลถึงขั้นนอนไม่ได้ ต้องรีบเช็กด่วนค่ะ
พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) พามารู้เท่าทันกับอาการนอนไม่หลับค่ะ อาการนอนไม่หลับ คือสภาวะร่างกายที่ไม่ปกติ ครอบคลุมตั้งแต่ความยากในการข่มตานอน ไปจนถึงอาการหลับไม่สนิท ซึ่งส่งผลให้รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าในเวลากลางวัน การทำงานด้านการรับรู้บกพร่อง อารมณ์แปรปรวน และคุณภาพชีวิตโดยรวมลดลง ซึ่งวิธีการรับมือก็แตกต่างกันออกไป เนื่องจากอาการนอนไม่หลับยังสามารถแบ่งได้อีกถึง 2 ประเภทจากการวินิจฉัยของแพทย์ ได้แก่
- อาการนอนหลับยาก กลุ่มอาการที่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการนอนมากกว่าปกติ
- ตื่นบ่อยในช่วงกลางดึก กลุ่มอาการหลับไม่สนิท รู้สึกตัวอยู่ตลอดทั้งคืน
ทั้งสองกลุ่มอาการ ถือเป็นสัญญาณที่จะนำไปสู่โรคมากกว่าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพการนอน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบร่างกายส่วนอื่น ๆ ทั้งทางกายภาพและจิตใจ ทำให้การสังเกตอาการตัวเอง และหาวิธีรับมือ รวมไปถึงการพบแพทย์จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญ
สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ
- สาเหตุทางกายภาพ มีอาการไม่สบาย เจ็บป่วย หรือเป็นอาการข้างเคียงของโรคบางชนิด เช่น ปวดหัวไมเกรน ปวดฟัน โรคบริเวณหู คอ จมูกต่าง ๆ ตลอดจนระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวัยทอง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อสุขภาพการนอนด้วยกันทั้งสิ้น
- สาเหตุทางจิตใจ อาการนอนไม่หลับบางครั้งก็เป็นเพราะความเครียด สมองไม่หยุดคิดจากสภาวะวิตกกังวล ทั้งจากการใช้ชีวิต การทำงาน การเล่นโทรศัพท์ รวมถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่บีบคั้นให้เกิดความรู้สึกตกค้างในจิตใจ ส่งผลให้ร่างกายต่อต้านและแสดงอาการออกมาในสภาวะที่ไม่ยอมพักผ่อน จนทำให้นอนไม่หลับนั่นเอง
ระดับความรุนแรงของโรคนอนไม่หลับ
นอกเหนือจากกลุ่มอาการที่ควรรู้แล้ว การป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการนอนยังมีระดับความรุนแรงที่ต่างกันออกไป ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับ รับมือกับความเครียดสะสมไม่ได้ ต้องรีบตื่นตัวและหาหนทางการรักษาได้ทันก่อนที่จะสายเกินไป
- ระดับชั่วคราว (Transient Insomnia) เป็นอาการเริ่มต้นที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องเปลี่ยนที่นอน หรือเดินทางข้ามไทม์โซน เมื่อร่างกายปรับตัวไม่ได้ก็จะเกิดอาการนอนไม่หลับนั่นเอง
- ระดับกลาง (Short-term Insomnia) อาการนอนไม่หลับระยะสั้น เป็นสภาวะที่สอดคล้องกับความเครียด โดยจะเกิดขึ้นเพียงหลักวันหรือสัปดาห์ และจะหายไป
- ระดับเรื้อรัง (Long-term or Chronic Insomnia) อาการเรื้อรังที่กินเวลานาน หลักเดือนหรือหลักปีขึ้นไป โดยเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอาการนอนไม่หลับเพราะสมองไม่หยุดคิด วิตกกังวล ความเครียด ตลอดจนการใช้ยารักษาบางประเภท ซึ่งนี่ถือเป็นความผิดปกติขั้นรุนแรงที่สุดของอาการดังกล่าว และควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม
วิธีทำลายวงจรความเครียด ให้นอนหลับง่ายขึ้น- การฝึกหายใจลึก ๆ หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดสะสมที่เกิดขึ้นในใจ- ปรับกระบวนความคิดใหม่ จัดลำดับความสำคัญ และให้เวลากับตัวเองมากขึ้น- การทำสมาธิ และสติ เพื่อใช้จินตภาพในการนำทางให้เราหลุดพ้นจากปัญหาในใจ- ผ่อนคลายความเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เป็นการพาตัวเองออกมาจากเรื่องเครียดสักระยะ- ออกกำลังกาย ยืดเส้น ยืดสายเป็นประจำ จะช่วยทำให้อาการนอนไม่หลับดีขึ้น ลดความเครียดได้ด้วย
สำหรับใครที่ได้ลองทำทุกวิถีทางแล้ว แต่ยังไม่หลุดพ้นจากอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และยังรู้สึกถึงภาวะเครียดรุมเร้า ควรรีบเข้ามาปรึกษาเพื่อวางแผนการดูแลรักษาแต่เนิ่นๆ นะคะ