จีเอฟเค ประเทศไทย บริษัทวิจัยทางการตลาด เปิดเผยว่าคนทำงานกว่า 37 ล้านคน ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ที่ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน เฉลี่ย 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมากกว่า 2,000 ชั่วโมงต่อเดือน ด้วยเหตุนี้การใช้พลังงานในที่ทำงานจึงสิ้นเปลืองมากกว่าอยู่ที่บ้าน และส่งกระทบกับสิ่งแวดล้อมโดยที่เราไม่รู้ตัว ปัญหาสิ่งแวดล้อมในสำนักงาน ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ไฟฟ้าสำหรับระบบปรับอากาศ แสงสว่าง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการใช้วัสดุอุปกรณ์สำนักงานอย่างฟุ่มเฟือย ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้หลายองค์กรต่างลุกขึ้นมาสร้างสำนักงานสีเขียว หรือที่เราเรียกว่า "Green office" สำนักงานที่มีการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ทำกิจกรรมในสำนักงานให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาให้ปริมาณต่ำ ดังนั้นวันนี้ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ที่สามารถคว้ารางวัลสำนักงานสีเขียวระดับประเทศ (Green Office) ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับ "ดีเยี่ยม" (G ทอง) 2 ปีซ้อน ขอแชร์เคล็ด (ไม่) ลับ ฉบับTEI ในการปั้นองค์กรให้เป็น Green office เพื่อองค์กรหรือหน่วยงานอื่น ๆ จะได้นำไปเป็นแนวทางในการสร้างความยั่งยืนและร่วมรักษ์โลกไปด้วยกัน
ก่อนอื่นทุกคนที่ทำงานในฐานะทีม Green Office ต้องรู้จักองค์ประกอบของสำนักงานสีเขียวทั้ง 6 หมวดให้แม่นยำและทำหน้าที่ให้ชัดเจน อาทิ หมวดที่ 1 ต้องกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย และแผนการดำเนินงาน รวมทั้งรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในสำนักงานอย่างต่อเนื่อง หมวด 2 ต้องมีการสื่อสารและสร้างจิตสำนึกพนักงานหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วม หมวด 3 ต้องควบคุมการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า เชื้อเพลิง รวมถึงลดการใช้กระดาษ หมวด 4 การจัดการของเสียที่ต้องมีระบบ คัดแยกขยะมูลฝอยเพิ่มการใช้ประโยชน์ และอย่าลืมบันทึกข้อมูลปริมาณขยะแต่ละประเภททุกเดือน ในขณะที่หมวด 5 ต้องดูแลสภาพแวดล้อมและความปลอยภัยในสำนักงานให้น่าอยู่ ทั้งเรื่องของพื้นที่สีเขียว พื้นที่สูบบุหรี่ลดมลภาวะภายในและภายนอกอาคาร ส่วนหมวด 6 ก็สำคัญไม่แพ้กันคือการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการเลือกใช้วัสดุ-อุปกรณ์สำนักงานที่ได้รับรองฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากเขียว ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ตระกร้าเขียว
สำหรับการดำเนินงานด้านสำนักงานสีเขียว TEI ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนและปฏิบัติการด้านอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมในสำนักงาน จึงได้ประกาศเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมการจัดการทรัพยากร พลังงาน และสิ่งแวดล้อมในสำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมภายในสำนักงาน โดยเคล็ด (ไม่) ลับ ที่ TEI อยากแชร์ให้กับองค์กรอื่น ๆ ที่ต้องการปั้นให้ตนเองไปสู่ผลสำเร็จในการเป็นสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยมมี 5 วิธีง่าย ๆ คือ 1) เริ่มจากการจัดการขยะมูลฝอย โดย TEI จะเน้นคัดแยก ส่งต่อใช้ประโยชน์อย่างเหมาะ ทั้งการขายและบริจาค เช่น โครงการถังวนถุง เปลี่ยนพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โครงการไปรษณีย์ reBOX เปลี่ยน กล่อง/ซองไม่ใช้แล้ว เป็นสิ่งจำเป็นทางการแพทย์และการศึกษา เป็นต้น 2) การลดใช้พลังงานและทรัพยากร ด้วยการจัดกิจกรรม challenge ตามหลักการวิจัยทำซ้ำ 21 วัน แล้ววันที่ 22 จะกลายเป็นนิสัย เช่น ลด(ไม่)รับ ไม่หลอดเนอะ ปิดไฟช่วงพักกลางวัน เปิด-ปิดแอร์ตามเวลา เช้าเปิด 08:30 น. เย็น 16:30 น. เป็นต้น 3) การจัดซื้อ มีทะเบียนควบคุมการเบิกจ่ายอุปกรณ์สำนักงาน ไม่สต๊อกอุปกรณ์สำนักงานเกินความจำเป็น (ใกล้หมดค่อยซื้อ) 4) การจัดจ้าง หยุดการใช้ทรัพยากรในการจัดประชุมแบบสิ้นเปลือง และ 5) จัดตั้งทีมตาสับปะรด ทำหน้าที่สอดส่องดูแลการปิด-เปิดไฟ และการทิ้งขยะมูลฝอยประจำชั้น ที่สำคัญทุกแนวปฎิบัติ TEI ได้เน้นย้ำกับพนักงานตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปถึงพนักงานทุกระดับ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในสำนักงานให้ปฏิบัติร่วมกัน รวมถึงผู้เข้ามาใช้บริการในสำนักงาน โดยใช้หลักเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ทำบ้านเราให้น่าอยู่ เป็นตัวอย่างที่ดี เพื่อให้คนที่เข้ามาในบ้านเราปฎิบัติตามกฎระเบียบของบ้านเรา
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI กล่าวว่า "การลดพลังงานด้านต่าง ๆ ที่ทาง TEI สามารถดำเนินการได้อย่างบรรลุเป้าหมาย เพราะเราได้สร้างจิตสำนึกและปลูกฝังพนักงานทุกระดับและผู้เข้ามาใช้บริการสำนักงาน ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสำนักงานสีเขียวและ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมีการทบทวนและปรับปรุงแผนและนโยบายให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการเกิดขยะมูลฝอย มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ"
ด้านคุณพวงผกา ขาวกระโทก ผู้จัดการโครงการ ในฐานะประธานคณะทำงานสำนักงานสีเขียว กล่าวถึงเทคนิคการสร้าง Green Office ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ ปิดไฟทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จ ปิดเครื่องใช้และอุปกรณ์สำนักงานให้ติดเป็นนิสัย เดินทางมาทำงานโดยระบบขนส่งสาธารณะ หรือแบบ Car Pool ไปทางเดียวกันใช้รถคันเดียวกัน ใช้บันไดแทนลิฟต์เมื่อต้องขึ้นลง 1-2 ชั้น ใช้กระดาษ Re-Use กับเอกสารภายในองค์กร ใช้แสงจากธรรมชาติช่วยในการส่องสว่างในสำนักงาน เน้นการประชุมสีเขียว (Green Meetings) และลดและเลือกเปิด-ปิด เครื่องปรับอากาศอย่างเหมาะสม เป็นต้น
ทั้งนี้การดำเนิน Green office ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค.67) TEI สามารถลดปริมาณขยะส่งกำจัดได้มากกว่า 89% และในปีนี้ก็ยังวางเป้าหมายในการลดพลังงานและทรัพยากรด้านต่าง ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในสำนักงานจากการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ