แม้ปัจจัยแวดล้อมจะสั่นคลอนแผนการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคบางส่วน แต่ความต้องการซื้อยังคงมีอยู่ ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย พบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามฯ (50%) วางแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยในอีก 1 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากในรอบก่อนหน้าที่มีเพียง 44% โดยได้รับแรงกระตุ้นมาจากมาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาฯ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ ประกอบกับการที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างจัดโปรโมชั่นอย่างดุเดือดหวังกระตุ้นยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายของปี จึงถือเป็นโอกาสทองของผู้ที่มีความพร้อมทางการเงินหรือมีเงินเก็บที่จะซื้อบ้าน/คอนโดมิเนียมเช่นกัน
ขณะที่จำนวนอุปทานในตลาดอสังหาฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลการสำรวจภาวะภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยทั้งโครงการแนวราบและอาคารชุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑล ในไตรมาส 2 ปี 2567 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) พบว่า อุปทานที่อยู่อาศัยเสนอขายในตลาดที่อยู่อาศัยรวม (บ้านจัดสรรและอาคารชุด) มีจำนวน 229,528 หน่วย มูลค่ารวม 1,350,586 ล้านบาท ซึ่งขยายตัว 11% และ 30.3% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนหนึ่งมาจากโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จำนวน 17,197 หน่วย มูลค่ารวม 128,440 บาท สะท้อนให้เห็นว่าอุปทานที่อยู่อาศัยยังคงมีจำนวนเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของผู้ซื้อในเวลานี้
เทรนด์หาบ้านออนไลน์โตต่อเนื่อง คนสนใจบ้านมือหนึ่งเพราะอยากได้บ้านใหม่แกะกล่อง
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เผยว่า จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ระหว่างเดือนมกราคม - กันยายน 2567 เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่แม้จะไม่ได้คึกคักเท่าที่ผ่านมา โดยช่องทางออนไลน์ยังครองใจคนหาบ้านและเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาได้เป็นอย่างดี ข้อมูลจากแบบสอบถามฯ DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study เผยว่า ช่องทางยอดนิยมที่ผู้บริโภคใช้ค้นหาข้อมูลเมื่อซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยนั้น 62% นิยมใช้เว็บไซต์โครงการมากที่สุด รองลงมาคือ Google ในสัดส่วนไล่เลี่ยที่ 60% และกลุ่มอสังหาฯ ในโซเชียลมีเดีย 51% ขณะที่แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์อย่าง YouTube (39%) และ TikTok (20%) ยังเป็นอีกช่องทางที่คนหาบ้านให้ความสนใจ โดยมีสัดส่วนที่สูงขึ้นในกลุ่มอายุ 22-29 ปี เนื่องจากสามารถถ่ายทอดบรรยากาศจริงของโครงการได้ดีกว่าและมีรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลาย ตอบโจทย์เทรนด์การเสพสื่อในยุคนี้
สำหรับฟิลเตอร์หรือตัวเลือกในการค้นหาที่อยู่อาศัยที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด กว่า 2 ใน 3 (67%) ต้องการฟิลเตอร์ค้นหาจากทำเลที่ตั้ง รองลงมาคือฟิลเตอร์ค้นหาตามขนาดที่อยู่อาศัย 62% และฟิลเตอร์ที่ช่วยแยกระหว่างที่อยู่อาศัยโครงการใหม่และมือสอง 58% โดยมีสัดส่วนที่สูงขึ้นในกลุ่มผู้ที่มีรายได้สูง (71%) ซึ่งช่วยคัดกรองบ้าน/คอนโดฯ ที่ต้องการได้ในเบื้องต้นและมีผลเกี่ยวเนื่องไปยังการวางแผนค่าใช้จ่ายตามไปด้วย เนื่องจากโครงการเปิดใหม่จะมีข้อเสนอที่ดึงดูดใจมากกว่า ผู้พัฒนาอสังหาฯ มักจัดโปรโมชั่นร้อนแรงกระตุ้นยอดขายในช่วงเปิดตัวโครงการใหม่อย่างเต็มที่ และเมื่อกู้ซื้อบ้านมือหนึ่งยังมีโอกาสได้วงเงินที่สูงกว่าการกู้ซื้อบ้านมือสองอีกด้วย
นอกจากนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ในปี 2567 นี้ พบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ มือหนึ่งนั้น กว่า 4 ใน 5 (83%) เลือกเพราะอยากได้ที่อยู่อาศัยในสภาพใหม่ ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ไม่ต้องกังวลว่าบ้านจะทรุดโทรมหรือเจ้าของเดิมจะแอบซ่อนความเสียหายไว้ รองลงมา 67% ต้องการตกแต่งบ้านตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ขณะที่ 66% มองว่าบ้านมือหนึ่งมีโปรโมชั่นต่าง ๆ มากกว่า ตอบโจทย์ในการวางแผนค่าใช้จ่าย ส่วน 59% มองว่ารูปแบบบ้าน/ห้องของโครงการเปิดใหม่มีความทันสมัยมากกว่า และ 56% มองว่าไม่มีประวัติหรือเหตุการณ์ร้าย/น่ากลัว ทำให้อุ่นใจและลดความกังวลไปได้ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นจุดเด่นของบ้านมือหนึ่งได้เป็นอย่างดี
สอดคล้องกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของชาวอาเซียนที่ให้บ้านมือหนึ่งเป็นตัวเลือกอันดับแรกเมื่อคิดซื้อที่อยู่อาศัย ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคในอาเซียนจากเว็บไซต์ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป (NYSE: PGRU) พบว่า ชาวมาเลเซีย 72% และชาวเวียดนาม 52% สนใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยมือหนึ่งมากที่สุด โดยมีแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ ประกอบกับเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ความพึงพอใจในสภาพตลาดที่อยู่อาศัยของ 2 ประเทศนี้มีทิศทางเป็นบวกตามไปด้วยเช่นกัน
เปิดเช็กลิสต์เลือกซื้อบ้านใหม่อย่างไรให้ตรงปก ตรงใจ คลายกังวลสำหรับมือใหม่
การซื้อที่อยู่อาศัยถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญในชีวิต เนื่องจากบ้าน/คอนโดฯ มีราคาสูงจึงต้องใช้เวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน การลงหลักปักฐานแต่ละครั้งจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ หากมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในแวดวงอสังหาฯ มาก่อนอาจเกิดความกังวลใจได้ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แนะนำเช็กลิสต์ในการเลือกซื้อบ้านมือหนึ่งสำหรับคนหาบ้านมือใหม่ ให้เริ่มต้นวางแผนการซื้อบ้านได้อย่างรอบคอบ พร้อมศึกษาปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนซื้อ เพื่อให้ผู้บริโภคที่ไม่เคยซื้อบ้านมาก่อนสามารถก้าวสู่เส้นทางการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้อย่างราบรื่นและมั่นใจยิ่งขึ้น
- สำรวจความพร้อมทางการเงิน คำนวณราคาบ้านที่กู้ได้ ปัจจัยสำคัญในการซื้อบ้าน/คอนโดฯ อันดับแรกคือต้องรู้ความสามารถในการกู้ซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยวางแผนการเงินและกำหนดราคาบ้าน/คอนโดฯ ที่เหมาะกับงบได้ โดยสามารถคำนวณราคาที่อยู่อาศัยคร่าว ๆ ด้วยการใช้สูตร "(รายได้ต่อเดือน) X (60 เท่าของรายได้) = ราคาบ้านที่กู้ซื้อได้" เช่น รายได้ 30,000 บาท/เดือน x 60 = 1,800,000 บาท ซึ่งเป็นการคำนวณเบื้องต้นเพื่อให้ทราบวงเงินขั้นต่ำที่จะกู้ได้ ทั้งนี้ บางธนาคารอาจจะปรับจำนวนเท่าของรายได้ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์พิจารณาของแต่ละสถาบัน ซึ่งจะต้องประเมินความสามารถทางการเงินควบคู่ไปกับประมาณการหนี้สินของผู้กู้อีกครั้ง เมื่อผู้บริโภคทราบวงเงินกู้คร่าว ๆ แล้วจะสามารถใช้เป็นราคาตั้งต้นในการค้นหาบ้าน/คอนโดฯ ที่สนใจ จากนั้นจึงเริ่มวางแผนเก็บเงินเพื่อใช้เป็นเงินดาวน์ประมาณ 10-20% ของราคาที่อยู่อาศัย
- เลือกประเภทที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ ที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อควรพิจารณาที่แตกต่างกันออกไป ผู้บริโภคควรพิจารณาว่าสมาชิกที่จะอาศัยด้วยมีใครบ้าง มีความต้องการในชีวิตประจำวันและมีไลฟ์สไตล์อย่างไร เช่น ต้องการสวนหย่อมเพื่อพักผ่อน ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นประจำ รวมทั้งผู้บริโภคมีแผนจะขยายครอบครัวในอนาคตหรือไม่ ซึ่งทำให้อาจต้องการพื้นที่มากขึ้นตามไปด้วย จากนั้นนำความต้องการที่มีมาเปรียบเทียบกับคุณสมบัติของบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดฯ ว่าประเภทไหนที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุด
- ปรียบเทียบความคุ้มค่าของคุณภาพวัสดุที่ใช้ ผู้บริโภคควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างหรือตกแต่ง ซึ่งวัสดุแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกัน รวมไปถึงความคงทนในการใช้งาน เช่น วัสดุในห้องครัวแบบไหนที่ทนทาน ผนังเก็บเสียงได้ดีหรือไม่ หรือไม่ใช้พื้นลามิเนตในโซนที่เปียกน้ำบ่อยเพราะอาจบวมได้ง่าย ฯลฯ โดยผู้บริโภคสามารถสอบถามสเปกวัสดุต่าง ๆ กับพนักงานขายได้เมื่อเยี่ยมชมโครงการจริง และนำมาพิจารณาความคุ้มค่าด้านราคากับวัสดุที่ได้ ควบคู่ไปกับเรื่องความสวยงามว่าผลงานการก่อสร้างและตกแต่งที่โครงการมอบให้นั้นตอบโจทย์ตามที่คาดหวังหรือไม่
- สำรวจส่วนกลางและระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย โดยผู้บริโภคที่ให้ข้อมูลกับทาง DDproperty ผ่านแบบสำรวจฯ ออนไลน์ ถึง 79% เผยว่าส่วนกลางภายในโครงการที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อมาก ดังนั้นผู้บริโภคต้องสำรวจว่าส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกจากโครงการมีอะไรบ้าง และพิจารณาว่าสิ่งที่ได้รับเหมาะสมกับค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายหรือไม่ หรือมีส่วนไหนที่เกินความจำเป็น เพราะจะส่งผลต่อค่าบำรุงรักษาที่ต้องจ่ายตลอดการอยู่อาศัย
นอกจากนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยต้องมีครบทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและภายในที่อยู่อาศัยเอง โดยมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เช่น มีระบบลิฟต์ล็อกชั้นสำหรับคอนโดฯ กล้องวงจรปิดทั่วทั้งโครงการ ใช้ระบบคีย์การ์ดในการเข้าออก ใช้กลอนประตูดิจิตอล (Digital Door Lock) รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ซึ่งล้วนเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหากเทียบกับการช่วยป้องกันความเสียหายของผู้อยู่อาศัย ทั้งนี้ ชื่อเสียงที่ดีของนิติบุคคลยังมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับบริการที่ดีตลอดการอยู่อาศัย โดยสามารถสอบถามชื่อบริษัทนิติบุคคลของโครงการจากพนักงานขายได้เช่นกัน
- ทำเลโครงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เบื้องต้นผู้บริโภคควรสำรวจพื้นที่โครงการด้วยตนเองว่าในทำเลนั้นมีความเจริญในพื้นที่ ระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพียงใด เช่น ใกล้ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งช็อปปิ้ง โรงพยาบาล สถานศึกษา ฯลฯ รวมทั้งมีระบบคมนาคมที่รองรับการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกหรือไม่ เช่น ใกล้รถไฟฟ้า BTS/MRT ใกล้ทางด่วน หรือสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง นอกจากนี้ อีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการสำรวจว่าทำเลที่โครงการตั้งอยู่นั้นอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังเมื่อฝนตกหนักหรือไม่ และปัจจุบันมีการจัดทำระบบระบายน้ำช่วยรับมือและแก้ปัญหาที่ดีขึ้นแล้วหรือยัง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจประสบปัญหานี้อีกครั้งในอนาคต
- ตรวจสอบว่าโครงการปลอดข้อพิพาทหรือไม่ สิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคไม่ควรมองข้ามก่อนตัดสินใจจองบ้าน/คอนโดฯ คือโครงการนั้นผ่านการอนุมัติรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA (Environmental Impact Assessment Report) เรียบร้อยแล้วหรือไม่ เนื่องจากบางโครงการอาจประกาศขายในระหว่างที่ยื่นขอ EIA อยู่ ซึ่งหากไม่ผ่านการอนุมัติจะส่งผลให้โครงการก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนดหรือไม่สามารถก่อสร้างได้ และจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ทำการจองแล้วโดยตรง นอกจากนี้ ผู้บริโภคควรค้นหาข้อมูลว่าโครงการที่สนใจนั้นมีข้อพิพาทหรือมีคดีความที่ยังไม่สิ้นสุดหรือไม่ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของโครงการ ทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถประกาศขายหรือทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างที่คิด
- เลือกโปรโมชั่นจัดเต็ม อัปเลเวลความคุ้มค่า ปัจจุบันผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างงัดกลยุทธ์ออกมาเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ผ่านการจับมือกับพันธมิตรที่หลากหลายเพื่อนำเสนอโปรโมชั่น/แคมเปญการตลาดที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์มากขึ้น ประกอบกับการที่มีมาตรการอสังหาฯ จากภาครัฐมาช่วยสนับสนุน ทำให้เวลานี้ถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้วางแผนซื้อบ้าน/คอนโดฯ ในช่วงปลายปีนี้ที่จะพิจารณาโครงการที่มีโปรโมชั่นดี ๆ มาช่วยให้ซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด สอดคล้องกับผลสำรวจที่ DDproperty จัดทำผ่านช่องทางออนไลน์ พบว่าโปรโมชั่นยอดนิยมที่ผู้วางแผนซื้อบ้าน/คอนโดฯ ต้องการมากที่สุด คือส่วนลด/ราคาพิเศษถึง 84% รองลงมาคือฟรีค่าส่วนกลางรายปี 76% และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ 69% จะเห็นได้ว่า 3 อันดับแรกของโปรโมชั่นที่ผู้ซื้อบ้านต้องการจะเน้นไปที่ส่วนลดทางการเงินเป็นหลัก เนื่องจากช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อบ้านใหม่ได้ตรงจุดมากที่สุด
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ได้ปล่อยแคมเปญล่าสุด "H.O.M.E. Campaign" แคมเปญที่ร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของไทย รวบรวมโครงการคุณภาพหลากหลายรูปแบบและระดับราคา เปิดโอกาสให้คนหาบ้านได้เลือกสรรที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์พร้อมเลือกโปรโมชั่นพิเศษที่โดนใจได้เอง เพียงลงทะเบียนซื้อบ้าน/คอนโดฯ ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้โดยสังเกตได้จากริบบิ้นสีแดงและสีชมพูบนเว็บไซต์ DDproperty และทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 รับสิทธิ์เลือกโปรโมชั่นพิเศษจาก 1 ใน 4 ของรางวัลสุดคุ้มได้ทันที มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท/รางวัล*
สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด! อย่าพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยช่วงโค้งสุดท้ายของปี ดูรายละเอียดและโครงการที่เข้าร่วมได้ทาง https://homecampaign.ddproperty.com หรือสังเกตโครงการที่มีริบบิ้น H.O.M.E. สีแดง (รางวัลมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท*) และสีชมพู (รางวัลมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท*) บนเว็บไซต์ DDproperty.com
หมายเหตุ
- *รางวัลของแคมเปญ "H.O.M.E. Campaign" มี 2 ระดับ คือระดับที่ 1 โครงการที่ติดริบบิ้นสีแดง รับรางวัลมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท/รางวัล และระดับที่ 2 โครงการที่ติดริบบิ้นสีชมพู รับรางวัลมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท/รางวัล
- **ในการรับรางวัลจากแคมเปญนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด ยกเว้นค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่อาจเกิดขึ้นสำหรับบางรางวัลที่เลือกรับ (ถ้ามี) โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด