อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำแห่งอาเซียน ร่วมสร้างเสริมธุรกิจให้ผู้ประกอบการในวงการเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมชวนนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตนเองร่วมงานแห่งวงการ COSMEX 2024 (คอสเม็กซ์) มหกรรมสำหรับวงการความงามที่มีครบทุกขั้นตอน เลือกซัพพลายเออร์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการทั้งใหม่-เก่า ร่วมกันค้นหาคำตอบที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จจากผู้ประกอบการกว่า 200 บริษัท ที่มาร่วมจัดแสดงในงานระหว่าง 5-7 พ.ย. นี้ ที่ฮอลล์ 99 - 100 ไบเทค กรุงเทพฯ
อุตสาหกรรมความงามเป็นอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน จากรายงานของ Nielsen เมื่อกลางปี 2567 ระบุว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยมียุโรปและเอเชียแปซิฟิกเป็นผู้นำตลาด ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นยอดขายจากแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ TikTok, Temu, eBay สูงถึง 41% นอกจากนี้ บริษัทวิจัย Statista ยังคาดว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ความงามในปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านล้านบาท คาดว่าจะเติบโต 3.11% ต่อปีในช่วงปี 2024-2029 โดยผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายมีส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุด คือจะมียอดขายอยู่ที่ 9 ล้านล้านบาท ในภูมิภาคอาเซียน Statista คาดว่ายอดขายปีนี้จะอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท และจะมีอัตราการเติบโต 3.04% ต่อปีในช่วงปี 2024-2029 โดยรายได้ 40.1% มาจากการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์
สำหรับประเทศไทย หนึ่งในตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่าในปีนี้ ธุรกิจเครื่องสำอางไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 2.81 แสนล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา 10.4% ในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกเครื่องสำอาง เครื่องหอม และสบู่ รวมมูลค่าถึง 90,078.76 ล้านบาท โตขึ้น 8.87% จากปี 2565 สำหรับปี 2567 นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม ไทยส่งออกเครื่องสำอาง เครื่องหอม และสบู่ไปแล้ว 66,008.14 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 12.49% สินค้าส่งออกที่มีสัดส่วนสูงสุดคือเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยมีประเทศคู่ค้าสำคัญ 5 อันดับแรก คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ จีน และเวียดนาม
นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ผู้จัดงาน COSMEX เผยว่าเทรนด์ในช่วงปีนี้ถึงปีหน้าประกอบไปด้วย 4 เทรนด์หลัก ๆ คือ "Sustainability on Display" แบรนด์ต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้องทำได้จริงตามคำมั่นสัญญาเรื่องความยั่งยืน, "AI Genie" การใช้ AI ยกระดับประสบลการด้านความงามสำหรับผู้บริโภคแต่ละราย เช่นการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ผิวและเลือกสีที่เหมาะ, "Now Commerce" การพัฒนาสื่อสารจากแบรนด์ถึงลูกค้าระหว่างแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ และ "Brand Care" การที่แบรนด์ใส่ใจในสุขภาพและการดูแลร่างกายของผู้บริโภคในทุกวัย และสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา
"โลกธุรกิจความงามและสุขภาพนั้นมีความเชื่อมโยงจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน โจทย์สำคัญที่ผู้ประกอบการต้องตีให้แตกคือ ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของตนเองยังดำเนินตามแนวทางเดิม ๆ อยู่หรือไม่ ทุกวันนี้ได้นำแนวคิดที่จะพาเทรนด์ไปสู่อนาคตมาใช้ประกอบการวางแผนธุรกิจแล้วหรือยัง ซึ่งผู้ประกอบการสามารถมาสร้างแบรนด์และสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้ในงาน COSMEX"
COSMEX คืองานแสดงเทคโนโลยีการผลิต, ผู้รับผลิต OEM/ODM, บรรจุภัณฑ์ การพิมพ์และฉลากบรรจุภัณฑ์, อุปกรณ์เสริมความงามและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปด้านเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายนนี้ที่ฮอลล์ 99 - 100 ไบเทค กรุงเทพฯ นางวราภรณ์กล่าวถึงการจัดงานในปีนี้ว่าจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Own Your Dreams" หรือ "สานฝันให้เป็นจริง" เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างธุรกิจในอุดมคติ งานนี้เปรียบเสมือนเวทีสานฝันให้เป็นจริงโดยผู้แสดงสินค้ากว่า 200 บริษัท เพื่อเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการด้านความงามจำนวนกว่า 15,000 ราย ผ่านบริการ สินค้า นวัตกรรม และกิจกรรมที่หลากหลาย
นอกจากนี้ COSMEX ยังจัดควบคู่กับงาน "อิน-คอสเมติกส์ เอเชีย" (in-cosmetics Asia) งานแสดงส่วนผสมผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายชั้นนำแห่งเอเชีย แปซิฟิก ในฮอลล์ 101 - 104 ของไบเทค ดังนั้นงานนี้จึงมีความครบครันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำสำหรับผู้ประกอบการความงาม
"ในกลุ่มผู้แสดงสินค้าที่มาร่วมงานกับเรา มีไฮไลต์พิเศษเช่น บริษัท Milott Laboratories ผู้รับผลิตที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, บริษัท Shrinkflex รับผลิตแพ็คเกจจิ้งที่ไม่มีขั้นต่ำ, RMR Technology ผู้แทนจำหน่าย Home Device แบรนด์ NUZZ ให้ทำ HIFU ที่บ้านได้เอง และ ช้างแก้ว
เนเชอรัล เจ้าของสินค้าเครื่องสำอางและเวชสำอางจากวัตถุดิบและสารสกัดพืชและสมุนไพรธรรมชาติ"
ภายในงานยังมีโซนความรู้ "COSMEX The Secret Chat" ที่จะมีกูรูและนักธุรกิจแบรนด์ดังมาร่วมกันแชร์เคล็ดลับความสำเร็จและข้อมูลตลาดแบบอินไซต์ ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจให้ก้าวหน้าไปอีกก้าว กับวงเสวนาแบบสบาย ๆ กว่า 30 หัวข้อกับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 40 ท่าน อาทิ หัวข้อด้านกฎหมายการโฆษณาเครื่องสำอาง เรื่องสิทธิบัตร การรับมือการปลอมแปลงสินค้า กระแสอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยปี 2025 ทริคการตลาด และอีกหลายหัวข้อเกี่ยวกับการทำ Brand รวมถึงหัวข้อสัมมนาที่ตอบโจทย์ความเชื่อด้านโหราศาสตร์ที่ส่งผลต่อโอกาสทางธุรกิจ
นอกจากนี้ยังมีการเปิดพื้นที่โซนใหม่ ครั้งแรกในไทย กับ "COSMEX Halal Cosmetics" งานแสดงเครื่องสำอางและผู้รับผลิตมาตรฐานฮาลาล โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ และอาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดฮาลาลที่เป็นตลาดความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนประชากรมุสลิมทั่วโลกที่มีจำนวนมาก เฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีชาวมุสลิมมากถึง 411 ล้านคนใน 15 ประเทศ ยังไม่รวมประชากรมุสลิมที่กระจายอยู่ในประเทศอื่น ๆ อีกจำนวนมาก คาดว่าในปี 2030 ประชากรมุสลิมจะมีจำนวนเท่ากับ 1 ใน 4 ของประชากรโลก หรือประมาณ 2,200 ล้านคน คาดกันว่าในปี 2025 รายได้ตลาดเครื่องสำอางและอาหารเสริมฮาลาลจะมีมูลค่าสูงถึง 1.79 พันล้านบาท โดย 3 ใน 4 ของมูลค่ารายได้นั้นอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
"โซนนี้เราจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และผู้รับผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฮาลาล รวมถึงงานสัมมนาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าฮาลาลจะมาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับโอกาสทองของฮาลาลไทย ข้อกำหนดและมาตรฐานเครื่องสำอางฮาลาลของประเทศไทยและสากล เครื่องสำอางและการขอรับรองมาตรฐานฮาลาล การตรวจวิเคราะห์เครื่องสำอางฮาลาล โอกาสเครื่องสำอางฮาลาลกับตลาดในตะวันออกกลาง เป็นต้น" นางวราภรณ์กล่าว
งาน COSMEX 2024 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ฮอลล์ 99-100 โดยจัดคู่กันกับงาน in-cosmetics Asia (ฮอลล์ 100-104) ผู้สนใจร่วมชมงาน สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 พฤศจิกายน 2567 เพื่อรับสิทธิ์เข้าชมฟรีทั้งสองงาน ลงทะเบียนและดูรายละเอียดของงานหรือหัวข้อสัมมนาเพิ่มเติมได้ที่ www.cosmexshow.com (สำหรับผู้ลงทะเบียนหน้างาน มีค่าเข้าชมงาน 500 บาท) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า: contactcenter@rxtradex.com หรือโทร. 02 686 7222