กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--แลนดี้ โฮม
นายพิเชษฐ มณีรัตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านของเมืองไทยภายใต้แรงกดดันด้านราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น จนผู้ประกอบการด้านธุรกิจรับสร้างบ้านหลายราย ออกมาส่งสัญญาณการปรับขึ้นราคาในช่วงกลางปีนี้ว่า หากพิจารณาในเชิงลึกถือว่าปัญหาราคาวัสดุที่พุ่งสูงขึ้นนั้น มีข้อดี กล่าวคือ ผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการณ์ที่มีปัญหาเรื่องเงินทุนสำรองต้องถอยออกไปจากตลาด เพราะต้านทานปัญหาราคาที่ถีบตัวสูงขึ้นรายวันไม่ไหว ซึ่งถือเป็นกลไกในการแยกต้นเหตุปัญหา “ สร้างบ้าน ไม่ได้บ้าน ” ออกไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ประกอบการดังกล่าวที่มักอยู่ในรูปผู้รับเหมารายย่อย โดยจะมีการยื่นข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้า เมื่อลูกค้าตกลงสร้างบ้าน ผู้รับเหมาก็จะทิ้งงานและหนีหายไปก่อนที่จะก่อสร้างเสร็จ ทำให้ลูกค้าเกิดความเสียหายและมีปัญหาบานปลายตามมาอีกมาก โดยเฉพาะในยุคที่ราคาวัสดุก่อสร้างและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเช่นนี้ ผู้ที่ต้องการสร้างบ้านต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้รับเหมาบางรายอาจจะรับมือกับราคาวัสดุที่พุ่งสูงขึ้นไม่ไหว จนในที่สุดต้องทิ้งงานหนีหายไป
“ ผมมองว่า ปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น คือกลไกพิสูจน์ความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างของเมืองไทยในปัจจุบัน แลนดี้ โฮม พยายามบอกผู้บริโภคตลอดให้รอบคอบในการตัดสินใจเลือกใช้บริการสร้างบ้าน และ 2 สิ่งที่ต้องดูอย่างละเอียดคือ ทุนจดทะเบียน และ ประสบการณ์ในวงการอันเป็นที่ยอมรับ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดความมั่นคงของบริษัท และกรณีเกิดความเสียหายที่บริษัทนั้นเป็นผู้กระทำการชดใช้ค่าเสียจะพิจารณาจาก “ ทุนจดทะเบียน ” เป็นหลัก ที่ผ่าน แลนดี้ โฮม ไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว เพราะเรา มีทุนจดทะเบียนสูงถึง 140 ล้านบาท และยังเป็นผู้ให้บริการด้านการก่อสร้างครบทุกระบบ พร้อมทั้งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการก่อสร้างของเมืองไทยด้วย ดังนั้น ลูกค้าจึงให้ความไว้วางใจเรามาโดยตลอด ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับใบรับรองระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001:2000 (Certificated ISO 9001:2000) ในขอบเขตการรับรอง “บริการ ออกแบบ และรับสร้างบ้าน” จากสำนักงานรับรองคุณภาพวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ใน พระบรมราชูปถัมน์ (วสท.) ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันมาตรฐานในการให้บริการของเราได้เป็นอย่างดี” นายพิเชษฐ กล่าวสรุป