การประชุมเมืองอัจฉริยะนานาชาติครั้งที่ 10 หรือ 10th IEEE International Smart Cities Conference (IEEE ISC2 2024) ได้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการวันนี้ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ แกรนด์ พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยเป็นงานประชุมนานาชาติ IEEE Smart Cities ครั้งแรก ที่จัดขึ้นในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ธีม "Smart Cities: Revolution for Mankind" โดยสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) และมีผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเข้าร่วม ตั้งเป้านำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในเมืองและสร้างสังคมที่ยั่งยืน
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานพิธีเปิดงาน ได้กล่าวถึงนโยบายของไทยในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและความสำคัญของการประชุม IEEE ISC2 2024 ว่า "การพัฒนาเมืองอัจฉริยะถือเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลไทยมุ่งเน้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับสากล เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะสามารถช่วยให้การจัดการเมืองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการใช้พลังงาน การลดปัญหามลพิษ และการแก้ปัญหาการจราจร ทั้งนี้ การประชุม IEEE ISC2 2024 จะเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และนักพัฒนาจากทั่วโลก เพื่อมาร่วมแบ่งปันความรู้และสร้างสรรค์แนวทางในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับเมืองต่าง ๆ ในไทย และจะช่วยให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในภูมิภาค"
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ยังเสริมอีกว่า "นโยบายเมืองอัจฉริยะของไทยมุ่งเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ อาทิ ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ โครงข่ายการขนส่งที่เชื่อมโยงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เพียงเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยยกระดับความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เมืองอีกด้วย ทั้งนี้ การประชุม IEEE ISC2 2024 จึงเป็นโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้เร็วขึ้น ผ่านการเรียนรู้จากตัวอย่างการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในต่างประเทศ"
ดร. ปิยพรรณ หันนาคินทร์ อุปนายกสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) ในนามผู้จัดงาน กล่าวว่า "เป้าหมายหลักของการจัดงาน IEEE ISC2 2024 คือการสร้างเวทีสำหรับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร นักวิจัย นักพัฒนา และผู้กำหนดนโยบาย มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การประชุมนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเชื่อมโยงความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุคที่เมืองต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนไปสู่ความอัจฉริยะ"
ดร. ปิยพรรณ ยังได้เพิ่มเติมว่า "การประชุมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีและการบริหารจัดการเมืองในแบบใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการเปิดรับความร่วมมือจากองค์กรชั้นนำทั่วโลก เพื่อพัฒนาเมืองในแบบที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการเฉพาะของแต่ละเมืองในประเทศไทย ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้และสามารถใช้งานได้จริง"
รศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ อุปนายกด้านการจัดประชุมวิชาการ IEEE PES Thailand ได้กล่าวเสริมถึงความสำคัญของการประชุม IEEE ISC2 2024 ว่า "การประชุมครั้งนี้นับว่าเป็นเวทีการประชุมด้านเมืองอัจฉริยะที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของโลก เพราะเป็นโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน หรือภาคการศึกษา ได้มาแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอหัวข้อสำคัญหลากหลายด้าน ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและการจัดการทรัพยากร ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเมืองขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการเมืองที่ดีขึ้น"
รศ.ดร.นพพร ยังได้กล่าวถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการประชุม IEEE ISC2 2024 ว่า "การประชุมนี้จะเป็นที่รวมตัวของผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจากทั่วโลก รวมทั้งกิจกรรมที่หลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญ วิทยากร ผู้บริหารเมืองอัจฉริยะทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ และเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยที่จะสามารถเรียนรู้และนำเทคโนโลยีไปใช้จริงในบริบทของประเทศได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเมืองไทยแล้ว ยังส่งเสริมให้ประเทศไทยมีบทบาทในเวทีโลกอีกด้วย"
รศ.ดร.มนตรี วิบูลยรัตน์ ประธานการจัดงาน IEEE ISC2 2024 ได้กล่าวถึงหัวข้อการประชุมและการนำเสนอวิจัยที่น่าสนใจภายในงาน ว่า "การประชุม IEEE ISC2 2024 ได้รวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เช่น ระบบโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะที่ยั่งยืน การใช้พลังงานหมุนเวียน และการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยในการบริหารจัดการเมือง โดยเน้นไปที่การสร้างเมืองที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน ความปลอดภัยในชีวิต และการเดินทางที่สะดวกและยั่งยืน"
รศ.ดร.มนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า "การประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำหรับผู้เข้าร่วมในการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและนอกประเทศ การวิจัยที่ถูกนำเสนอจะครอบคลุมหัวข้อที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเมืองอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การจัดการพลังงาน และการพัฒนาระบบขนส่ง การรวมตัวกันในครั้งนี้จะช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่จะเป็นประโยชน์ในการนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้จริงกับเมืองในอนาคต รวมถึง ยังมีการจัดกิจกรรมเชิงวิชาการที่หลากหลาย อาทิ การนำเสนอผลงานกว่า 150 ฉบับจาก 28 ประเทศ การบรรยายพิเศษ (keynote) 4 หัวข้อ การบรรยายเชิงการศึกษา (tutorial) 4 หัวข้อ เวทีการเสวนา (panel session) 13 หัวข้อ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (workshop) 2 หัวข้อ และการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้เชิงวิชาการ (side event) รวมถึง การทัศนศึกษาเชิงวิชาการ 2 เส้นทาง"
นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีจัดแสดงนวัตกรรม และเทคโนโลยีด้านเมืองอัจฉริยะ โดยมีไฮไลท์ที่สำคัญจากผู้สนับสนุนหลักในการจัดแสดงนำโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), IEEE DataPort อีกทั้ง การจัดแสดงเทคโนโลยีอัจฉริยะจากบริษัทชั้นนำระดับนานาชาติ อาทิ บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) และบริษัท ชไนเดอร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) ที่เป็นผู้สนับสนุนระดับไดมอนด์ จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยในการแสดงศักยภาพด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ กระตุ้นการวิจัย และพัฒนานวัตกรรมสำหรับเมืองอัจฉริยะ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้นำด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระหว่างประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า "ทีเส็บยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนการจัดงาน IEEE ISC2 2024 ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการนำเสนอเทคโนโลยีและแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจากทั่วโลก ที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนาเมืองของประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งพัทยามีบทบาทเป็นเมืองไมซ์ชั้นนำในการจัดงานระดับนานาชาติด้วย"
การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะสร้างผลดีต่อการพัฒนาด้านความยั่งยืนแก่พื้นที่ EEC โดยจะมีการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง พลังงาน ข้อมูลและเทคโนโลยี การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รวมถึงความยั่งยืนและการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของทีเส็บที่เน้นการพัฒนาเมืองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการเดินทางภายในเมือง (Urban Quality of Life and Mobility) โดยการประชุม IEEE ISC2 2024 นี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระดับสากล และนำเสนอพัทยาในฐานะศูนย์กลางเมืองอัจฉริยะของประเทศไทย
นายภูริพันธ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าขอขอบคุณ IEEE PES Thailand สำหรับการสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันผลักดันการจัดงานประชุมระดับนานาชาติในประเทศไทยมากกว่า 20 งาน ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยอย่างยั่งยืน ทีเส็บมีความยินดีที่จะสนับสนุน IEEE PES Thailand ต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกันในการจัดงานประชุมระดับโลกในประเทศไทยอีกในอนาคต
งานประชุม IEEE ISC2 2024 จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศไทยและการยกระดับบทบาทของไทยในเวทีนานาชาติ