ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดศูนย์บริการครบวงจร ณ จุดเดียวเพิ่มความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร

ข่าวท่องเที่ยว Friday May 16, 2008 11:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ท่าอากาศยานไทย
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ให้บริการข้อมูล รับแจ้งเหตุ และแก้ไขข้อขัดข้องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2551 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้เปิดให้บริการศูนย์บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ Suvarnabhumi Airport One Stop Service เรียกโดยย่อว่า S.O.S ขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อจะปรับปรุง แก้ไขการอำนวยความสะดวกในการให้ข้อมูลข่าวสาร การรับแจ้งเหตุทุกเรื่อง รวมถึงการเข้าไปแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ รวมไปถึงหน่วยงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ใช้บริการ ณ ทสภ. ได้รับการบริการที่ดี สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ปัญหาข้อขัดข้องจากการใช้บริการต่าง ๆ จะได้รับการแก้ไขได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยศูนย์ S.O.S นี้ เป็นศูนย์ที่จะพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างเบ็ดเสร็จในจุดเดียว อาทิ การให้ข้อมูลข่าวสาร การรับแจ้งเหตุข้อขัดข้องในทุก ๆ ด้าน เพื่อทำการแก้ไข การให้บริการสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ การบริการด้านการเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ศูนย์ S.O.S ตั้งอยู่ ชั้น 4 ห้องโถงผู้โดยสารขาออก บริเวณประตู 5 หมายเลขโทรศัพท์ โทร.02-132-1111-2 โทรสาร 02-132-1110 โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
นายเสรีรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ Suvarnabhumi Airport One Stop Service นี้ จะช่วยพัฒนางานด้านบริการให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการต่าง ๆ รวมถึงสายการบินและผู้ประกอบการและหน่วยงานราชการต่าง ๆ ภายใน ทสภ. ได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้นในทุก ๆ เรื่องให้เบ็ดเสร็จในจุดเดียว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการของ ทสภ.ให้ได้มาตรฐานดียิ่งขึ้น สร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการภายในท่าอากาศยาน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นท่าอากาศยานที่จะให้บริการดีเด่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกในปี 2552 ได้ต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ