- รายได้เติบโตขึ้น7% ตามสกุลเงินท้องถิ่นและ 4.3% เมื่อคำนวณตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
- จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 370,000 คนใน 149 ประเทศ ซึ่งให้บริการแก่บริษัท Fortune Global 500 ถึง 86%
- มีการลงทุนใหม่ทั่วโลกมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการลงทุนจำนวน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขยายและเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI
- ความร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มขึ้น5% ในปีงบประมาณ 2567
ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัท PwC ทั่วโลกรายงานรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตขึ้น 3.7% ตามสกุลเงินท้องถิ่นและ 4.3% ตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับรายได้รวมในปีงบประมาณ 2566 ที่ 5.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นาย โมฮาเม็ด คานเด ประธานระดับโลกของ PwC กล่าวว่า "ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยความสำเร็จและความท้าทาย เราได้สนับสนุนการดำเนินงานชองลูกค้าในด้านต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิดผลในด้านบวกต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภูมิภาคและชุมชนที่เรามีสำนักงานและทำงานอยู่ แม้ว่าภาวะทางเศรษฐกิจจะมีความไม่แน่นอน แต่เราก็ยังเห็นการเติบโตของรายได้ในทุกส่วนงานธุรกิจของเรา PwC ได้ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และมีการงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขยายและเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI ในเรามุ่งเน้นไปที่การสร้างความไว้วางใจและให้บริการที่มีคุณภาพเพื่อให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จในวันนี้และได้ช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจของพวกเขาในวันพรุ่งนี้ เรายังมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือและนวัตกรรมเพื่อช่วยนำทางให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราสามารถฝ่าฟันสภาพแวดล้อมของโลกที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และผมก็ภูมิใจในสิ่งที่พนักงานกว่า 370,000 คนของเราทำสำเร็จในปีนี้"
รายได้เติบโตทั่วโลก
ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวในหลายประเทศและมีความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ทำให้ความต้องการของตลาดบางแห่งลดลง แต่รายได้โดยรวมของเครือข่าย PwC ยังคงเติบโตขึ้นทุกปี
- รายได้ในทวียุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เพิ่มขึ้น 8.6% โดยรายได้รวมของประเทศสหราชอาณาจักรและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สะท้อนถึงความต้องการบริการที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง สำหรับประเทศเยอรมนีก็มีการเติบโตที่มั่นคง ในขณะที่ประเทศสวีเดนและฝรั่งเศสมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ส่วนรายได้โดยรวมในแอฟริกาลดลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังคงเติบโตต่อเนื่องในแอฟริกาใต้ ขณะที่ยุโรปกลางและตะวันออก (CEE) มีการเติบโตที่มั่นคง
- สภาวะตลาดที่ยากลำบากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกส่งผลให้รายได้โดยรวมลดลง 5.6% อุปสงค์ที่ชะลอตัวโดยเฉพาะในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนส่งผลให้รายได้ลดลง และในประเทศออสเตรเลียที่เผชิญอุปสรรคทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่ผันผวน รวมถึงการเลิกกิจการธุรกิจที่ปรึกษาในส่วนชองภาครัฐของบริษัท ทำให้รายได้ของออสเตรเลียลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ประเทศอินเดียยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีมากและมีการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง
- รายได้ในทวีปอเมริกาเพิ่มขึ้นเพียง4% สะท้อนถึงสภาพตลาดที่ยากลำบากในประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ความต้องการบริการในประเทศบราซิลยังคงแข็งแกร่ง
ผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งในทุกส่วนงานธุรกิจ
PwC มีส่วนงานธุรกิจ ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจตรวจสอบบัญชี ธุรกิจที่ปรึกษา และบริการด้านภาษีและกฎหมาย มีรายได้เพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2567
ธุรกิจตรวจสอบบัญชี
รายได้จากการดำเนินงานธุรกิจตรวจสอบบัญชี ในปีที่ 175 ของเราเติบโตขึ้น 3.4% เป็น 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปีงบประมาณ 2566 อยู่ที่ 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ธุรกิจตรวจสอบบัญชียังคงเป็นพื้นฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะความต้องการบริการด้านใหม่ ๆ เช่น การให้บริการด้านการจัดการความเสี่ยง และการตรวจสอบเพื่อให้ความเชื่อมั่นในด้านต่าง ๆ เช่น ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีการเติบโตอย่างมาก และเรายังมีการลงทุนในการพัฒนาบริการใหม่ ๆ เหล่านี้เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
แม้ว่าตลาดจะมีการแข่งขันสูงและผลกระทบจากการหมุนเวียนบริษัทตรวจสอบบัญชี แต่ธุรกิจการตรวจสอบบัญชีซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรายังคงเติบโตขึ้น เนื่องจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมองเห็นคุณค่าของความมุ่งมั่นของเราในการตรวจสอบบัญชีที่มีคุณภาพ และการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายขีดความสามารถในด้านการตรวจสอบบัญชี ทั้งนี้ รายได้จากการตรวจสอบบัญชีคิดเป็นสามในสี่ของรายได้จากการตรวจสอบและบริการให้ความเชื่อมั่นทั้งหมดของเรา
ในปีงบประมาณ 2567 เรายังได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ในการดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มการตรวจสอบบัญชีที่มีการนำ AI มาใช้ในการตรวจสอย (Next Generation Audit) ซี่งเป็นการพัฒนาในระยะยาว ผ่านการรลงทุนไม่น้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับบริการการตรวจสอบบัญชีในด้านการรายงานทางการเงิน
ธุรกิจที่ปรึกษา
รายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจที่ปรึกษาของเราเพิ่มขึ้น 2.6% เป็น 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปีงบประมาณ 2566 อยู่ที่ 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตลาดการควบรวมและซื้อกิจการที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซาในตลาดที่สำคัญหลายแห่ง และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ขัดขวางการลงทุนในโครงการที่สำคัญบางแห่งทำให้การเติบโตของการดำเนินงานด้านที่ปรึกษาของเราชะลอตัวลงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เรายังคงลงทุนในงานที่เราดำเนินการร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยี ในขณะที่ก็ช่วยเหลือลูกค้าในการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้ความร่วมมือกับพันธมิตรของเราเพิ่มขึ้น 24.5% ในปีงบประมาณ 2567 การลงทุนกับพันธมิตรของเราจะยังคงดำเนินต่อไป และเรามองว่านี่เป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อธุรกิจที่ปรึกษาของเราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เรายังได้เห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจบริการการจัดการ (Managed Services business) ซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 58,000 คนทั่วโลก งานของเราในการช่วยเหลือองค์กรที่ประสบปัญหาทางการเงินและเผชิญกับการล้มละลายยังคงเติบโต โดยรายได้จากส่วนธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น 30% ในปีงบประมาณ 2567
ธุรกิจบริการด้านภาษีและกฎหมาย
รายได้จากธุรกิจภาษี กฎหมาย และกำลังแรงงานของเรา เพิ่มขึ้น 6.3% เป็น 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปีงบประมาณ 2566 อยู่ที่ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)?
ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ยังคงเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจบริการด้านภาษี การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีที่เชื่อมโยง ซึ่งรวมถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีรูปแบบใหม่ (Pillar Two) และความยั่งยืนที่มีข้อกำหนดในการรายงานที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ?
ความต้องการในบริการด้านกฎหมายและกำลังแรงงานของเรา เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีงบประมาณ2567 ซึ่งเรามุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนลูกค้าที่อยู่ระหว่างการควบรวมและซื้อกิจการ การเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการวางแผนกำลังแรงงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการสนับสนุนจากการประเมินผลกระทบของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ต่อบุคลากร กระบวนการ และธุรกิจของลูกค้า
การลงทุนเพื่ออนาคตของ PwC
สำหรับเครือข่ายของ PwC ทั่วโลก เราได้ลงทุน 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2567 หลังจากการลงทุนในปีงบฯ 2566 ที่มากกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ?
นอกเหนือจากการลงทุนเพื่อดึงดูดทีมงานและบุคลากรที่มีประสบการณ์มาร่วมงานกับ PwC ทั่วโลกแล้ว บริษัท PwC ยังได้เข้าซื้อกิจการ 8 แห่งและลงทุนเชิงกลยุทธ์ 7 รายการในปีงบประมาณ 2567 เพื่อช่วยขยายขีดความสามารถระดับมืออาชีพของเราในหลาย ๆ ด้านตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงห่วงโซ่อุปทานและการกำกับดูแลข้อมูล
เครือข่าย PwC ยังคงลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในเครื่องมือตรวจสอบบัญชี เทคโนโลยี และวิธีการตรวจสอบของเราทั่วโลก เพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงาน ลดความซับซ้อน และทำให้การทำงานของเราเป็นอัตโนมัติเพื่อขับเคลื่อนคุณภาพ และช่วยให้ทีมงานของเราสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและดีขึ้นให้กับลูกค้า โดยเอไอ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (Generative AI) ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับเครือข่ายของเรา ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการลงทุนมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการเอไอของเรา และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทของเราในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้ลงนามในข้อตกลงกับ OpenAI ซึ่งทำให้ PwC เป็นตัวแทนจำหน่าย ChatGPT Enterprise รายแรก และเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์รายใหญ่ที่สุด
นาง แครอล สตับบิงส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ระดับโลก บริษัท PwC ประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่า "ที่ PwC การส่งมอบงานคุณภาพ ถือเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำและเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและกุญแจสู่ความสำเร็จ การตัดสินใจและความมุ่งมั่นที่ขับเคลื่อนด้วยคุณภาพ คือ ความพยายามของเราในการปรับปรุงและส่งมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืน การลงทุนที่สำคัญที่เราได้ทำในปีที่ผ่านมา รวมถึงขีดความสามารถด้าน AI และแพลตฟอร์มการตรวจสอบบัญชีรุ่นถัดไป ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่สามารถส่งมอบผลลัพธ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้า ผู้คน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง" การสร้างกำลังแรงงานแห่งอนาคต?
เมื่อปี 2564 เราได้ให้คำมั่นที่จะสร้างงานใหม่สุทธิมากกว่า 100,000 ตำแหน่งในช่วงระยะเวลาห้าปี โดยเน้นการจ้างผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ที่มีความสำคัญมากขึ้น เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ คลาวด์ สภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลง และห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ เราได้บรรลุเป้าหมายสามในสี่ภายในระยะเวลาเพียงสามปี โดยเพิ่มงาน 6,161 ตำแหน่งในปีงบประมาณ 2567 และ 68,681 ตำแหน่งในช่วงสองปีก่อนหน้า ส่งผลให้เรามีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 370,000 คนทั่วโลก
การฝึกอบรมและการเพิ่มทักษะให้กับบุคลากรของเรา รวมทั้งการมอบทักษะให้พวกเขาเพื่อสร้างอาชีพที่ประสบความสำเร็จในฐานะส่วนหนึ่งของชุมชนนักแก้ปัญหาเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในปัจจุบันและอนาคตของ PwC เราได้ลงทุนในศักยภาพของบุคลากรของเราเพื่อช่วยจัดการกับความท้าทายของศตวรรษที่ 21 โดยมีพนักงาน PwC ที่ทำงานอยู่กว่า 198,000 คนที่สำเร็จการฝึกอบรมการเพิ่มทักษะด้านความยั่งยืนและพนักงาน PwC ที่ทำงานอยู่กว่า 50,000 คนได้เข้ารับการฝึกอบรมด้านทัศนคติแบบมีส่วนร่วม (inclusive mindset)
นอกจากนี้ เราได้ลงทุนเกือบ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มและขยายขีดความสามารถด้าน AI ทั่วทั้งเครือข่าย และเปิดใช้งานแพลตฟอร์ม AI 'ChatPwC' ให้กับพนักงงานกว่า 200,000 คนในบริษัทสมาชิกเครือข่ายของ PwC ซึ่งช่วยให้บุคลากรของเราสามารถใช้เทคโนโลยี ChatGPT ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีการควบคุมดูแลโดยมนุษย์
แม้ว่าจะมีภารกิจอีกมากที่ต้องดำเนินการเพื่อทำให้ PwC เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนร่วมงานของเรา แต่ในปีที่แล้วบุคลากรของเรากล่าวว่า PwC เป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม (84%) เป็นสถานที่ที่พวกเขารู้สึก 'เป็นส่วนหนึ่ง' (76%) และเป็นสถานประกอบการที่ค่านิยมส่วนบุคคลของพวกเขาสอดคล้องกับค่านิยมที่ PwC (82%)
การมีส่วนร่วมในสังคมและชุมชนที่เราอาศัยและทำงาน
ถือเป็นปีที่สองติดต่อกันที่เราเผยแพร่ รายงานความโปร่งใสระดับโลก (Global Transparency Report) ซึ่งรวมถึงการแสดงผลการดำเนินงานของเราตามมาตรฐานการวัดผลตัวชี้วัดทุนนิยมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum's (WEF) Stakeholder Capitalism Metrics) 55 รายการ รวมถึง รายงานสภาพแวดล้อมเครือข่าย (Network Environment Report) ของเรา ซึ่งการรายงานผลกระทบที่กว้างขึ้นในฐานะองค์กรนี้ยังทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราสามารถประเมินเราได้ไม่เพียงแต่รายได้ที่เราสร้างขึ้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบที่เรามีต่อผู้คน สังคม และโลกด้วย
จากตัวชี้วัดของสภาเศรษฐกิจโลก 39 รายการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา เราปฏิบัติตามทั้งหมดหรือบางส่วน 35 รายการ เรามีความคืบหน้าในการรายงานตามตัวชี้วัดเหล่านี้ในปีที่ผ่าน ๆ มา และจะยังคงมองหาวิธีที่เราสามารถเพิ่มความโปร่งใสในปีต่อ ๆ ไป เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งในคุณค่าของการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของบริษัทที่มีต่อสังคม เราสนับสนุนสภาเศรษฐกิจโลกในการพัฒนาตัวชี้วัดทุนนิยมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเป็นวิธีการที่เข้มงวดเพื่อวัดผลกระทบของบริษัทที่มีต่อผู้คนและโลก ขณะที่เราเป็นผู้ริเริ่มใช้ตัวชี้วัดดังกล่าว และรายงานล่าสุดของเราอยู่ที่นี่ เราเชื่อว่าตัวชี้วัดเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบ นำไปสู่การสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งและสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เรายังมีความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายปี 2573 ตัวอย่าง เช่น เราได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขต 1 และ 2 ลง 71% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2562 (เป้าหมายของเรา คือ การลดลง 50% ภายในปีงบประมาณ 2573) นอกจากนี้ เราได้ใช้ไฟฟ้าหมุนเวียน 95% ในประเทศและอาณาเขตของเราแล้ว
การสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนที่เราอาศัยและทำงานเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับพนักงานของเราทั่วโลก เรามีส่วนสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นด้วยการเป็นอาสาสมัครและเสนอบริการของเราโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือลดราคา เมื่อปีที่แล้ว พนักงาน PwC กว่า 54,000 คนได้อุทิศเวลามากกว่า 860,000 ชั่วโมงในการทำกิจกรรมที่สนับสนุนองค์กรการกุศล องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรในท้องถิ่น ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้รับประโยชน์กว่า 1.5 ล้านคน และมอบเงินลงทุนในชุมชนมากกว่า 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านนาย พิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า "เหมือนเช่นทุกปีที่ PwC ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ผลการดำเนินงานของเครือข่าย PwC นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับภาคธุรกิจของไทย จากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างช้า ๆ และความไม่แน่นอนทางการเมืองทั่วโลก แต่เราก็ยังได้รับความไว้วางใจให้ส่งมอบงานที่มีคุณภาพให้ลูกค้าเหมือนเช่นเคย ส่งผลให้รายได้ของเราในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปีงบการเงินใหม่นั้น PwC ประเทศไทย พร้อมสานต่อนโยบายของเครือข่าย PwC ในการมุ่งเน้นด้านนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน โดยเรามีแผนจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงาน และพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่พนักงานของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับคุณภาพงานที่ส่งมอบให้กับลูกค้า นอกจากนี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเพื่อสังคม และส่งเสริมให้ลูกค้าและผู้ประกอบการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ตนอาศัยอยู่"