SGP ประกาศผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2567 บุ๊คกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ที่ 1,045.91 ลบ. โตกว่า 302.78% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน พร้อมกับรายได้ 63,952.60 ลบ. ชูกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 2,900.84 ลบ. เพิ่มขึ้น 964.54 ลบ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.81 ผลมาจากราคา LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) ในช่วง 9 เดือนของปีนี้ มีการปรับตัวในทิศทางที่ดี มีความผันผวนน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมสูงกว่าเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่าผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 1,045.91 เพิ่มขึ้น 786.24 ล้านบาท หรือ 302.78% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 259.67 ล้านบาท
โดยมีรายได้จากการขาย จากการขนส่ง และการให้บริการ 63,952.60 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 68,037.73 ล้านบาท ลดลง 6% รายได้โดยรวมลดลงสาเหตุหลักมาจากปริมาณขายในธุรกิจขาย LPG ในต่างประเทศลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ราคาก๊าซ LPG โดยรวมจะค่อนข้างสูงกว่าปีก่อนก็ตาม ราคาเฉลี่ยโดยรวมสำหรับ 9 เดือนของไตรมาส 3 ปี 2567 และงวดเดียวกันของปี 2566 มีราคาเฉลี่ยประมาณ 602 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน และ 564 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน
"บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นในงวด 9 เดือน ของปี 2567 จำนวน 2,900.84 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.54 เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีกำไรขั้นต้น 1,936.30 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.85 โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจำนวน 964.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.81 เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในช่วง 9 เดือนของปี 2567 ลดลง 15 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ลดลง 95 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 1.69" นางจินตณา กล่าว
โดยแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 ทาง SGP ประเมินว่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลขายของอุตสาหกรรมพลังงาน และเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจของบริษัท ซึ่งส่งผลให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ตลอดจนบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ
บริษัทมีสัดส่วนยอดขายของ SGP ในปัจจุบัน แบ่งเป็นการจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศ 70-80% ส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายก๊าซ LPG ในประเทศไทย รวมทั้งบริษัทมีแนวทางทำตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย