จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 3/2567 รายได้จากธุรกิจหลัก เติบโต 3% จากไตรมาส 3/2566 แบ็คล็อคเติบโต 35% จากไตรมาส 3/2566 ผนึกกำลังกับ Round 2 Solutions หลังถือหุ้นใหญ่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 14, 2024 10:08 —ThaiPR.net

จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 3/2567 รายได้จากธุรกิจหลัก เติบโต 3% จากไตรมาส 3/2566 แบ็คล็อคเติบโต 35% จากไตรมาส 3/2566 ผนึกกำลังกับ Round 2 Solutions หลังถือหุ้นใหญ่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

จีเอเบิล (GABLE) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ยังคงความแข็งแกร่งและเติบโต โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาส 3/2566 กำไรขั้นต้น 275 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงในระดับ 5,321 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 56 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามหากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายอื่น และรายได้อื่น กลุ่มบริษัทฯ จะมีกำไรหลักจากการดำเนินงานใกล้เคียงกับปีก่อน

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า ในไตรมาสสามปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยมีรายได้ และยอดขายรอรับรู้รายได้เติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังคงต่อยอดทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นในสัดส่วน 75% ของบริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ จำกัด (Round 2 Solutions) ในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์มุ่งก้าวสู่ผู้นำ Smart Business Application Provider ในประเทศไทย โดยนำเอาจุดเด่นการให้บริการที่ปรึกษาด้านดิจิทัล และนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ระดับโลกทั้งระบบ ERP (Enterprise Resources Planning) และ CRM (Customer Relationship Management) แบบครบวงจร ตอบโจทย์กลยุทธ์ลูกค้าระดับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม

นางสาวรวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ สำหรับในไตรมาส 3/2567 รายได้จากการขายและบริการ 1,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรขั้นต้น 275 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 56 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามหากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายอื่น และรายได้อื่น กลุ่มบริษัทฯ จะมีกำไรหลักจากการดำเนินงานใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะกลุ่มบริษัทฯ มีแบ็คล็อค และยอดขายที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงในระดับ 5,321 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต และมี Backlog ที่พร้อมรองรับรายได้ในปี 2567 จำนวน 1,334 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80-90% ของเป้าหมายรายได้ในช่วงที่เหลือในปี 2567

จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ โดยมีอัตราส่วนที่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนในระดับต่ำเพียง 0.09 เท่า ลดลงจาก 0.58 เท่า ในไตรมาสก่อน และมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งมากกว่า 800 ล้านบาท ที่พร้อมรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ

บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับสูงสุด 5 ดาว หรือ "ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring) ประจำปี 2567 จากรายงาน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2024 (CGR) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงาน ก.ล.ต. โดยการประเมินครั้งนี้ครอบคลุมเกณฑ์ 5 ข้อหลัก ได้แก่ สิทธิของผู้ถือหุ้น การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

"นอกจากนี้ G-Able ยังได้รับ 99 คะแนน ในโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน หรือ AGM Checklist โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย โดยเน้นการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม เช่น การให้ข้อมูลครบถ้วนทั้งภาษาไทยและอังกฤษบนเว็บไซต์ การประชุมในวันเวลาเหมาะสม พร้อมทั้งกรรมการ และผู้บริหารให้ความสำคัญกับการจัดประชุมผู้ถือหุ้น

โดยสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในธรรมาภิบาลและการบริหารแบบยั่งยืนตามหลัก ESG ของ G-Able ที่ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน ขณะที่บริษัทจะนำผลการประเมินนี้ไปใช้เป็นแนวทางพัฒนาด้านธรรมาภิบาล เพื่อเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป" ดร.ชัยยุทธ กล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ