คณะกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ มีมติเอกฉันท์เลือก "นายเกรียงไกร เธียรนุกุล" ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2567 ในฐานะผู้บริหารที่มีความโดดเด่นด้านวิสัยทัศน์ยกระดับภาคอุตสาหกรรมเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว ขับเคลื่อนเกษตรอุตสาหกรรมทั่วประเทศ พร้อมมุ่งพัฒนาเอสเอ็มอี ช่วยสร้างอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน เตรียมมอบรางวัล 17 ธันวาคมนี้ ณ โรงแรมรามา การ์เดนส์ กรุงเทพฯ
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพมีมติเห็นชอบให้นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับรางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพประจำปี 2567 ซึ่งนับเป็นบุคคลที่ 10 ตั้งแต่มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา เนื่องจาก นายเกรียงไกรเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ให้กับเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับสู่อุตสาหกรรรมสีเขียว อันเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน จวบจนกระทั่งนายเกรียงไกรได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมฯ 2 วาระติดต่อกันตั้งแต่ปี 2565-2569 ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ทิศทางดังกล่าว นายเกรียงไกรมีนโยบาย One FTI ที่มุ่งหลอมรวมทุกอุตสาหกรรม ทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ ไปจนถึงธุรกิจเอสเอ็มอี และในระดับจังหวัด ซึ่งไม่เพียงแต่พัฒนาอุตสาหกรรมเดิม (First Industries) แต่ยังส่งเสริมการปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Next-GEN Industries) ที่ประกอบด้วย 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curves) และสนับสนุนอุตสาหกรรมให้ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว) เพื่อที่ภาคอุตสาหกรรมจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทรนด์ดิจิทัล ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ นายเกรียงไกรยังมีแนวคิดในการนำภาคเกษตรอุตสาหกรรมมาเชื่อมโยงกับชุมชน ผ่านโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ หรือ SAI (Smart Agriculture Industry) ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดย SAI จะเป็นการผสมผสานระหว่างภาคเกษตรกับภาคอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะสามารถพัฒนาและสร้างความยั่งยืน ทั้งนี้ นายเกรียงไกรมุ่งส่งเสริมขีดความสามารถของเอสเอ็มอีเพื่อให้แข่งขันได้ ผ่านการยกระดับ SME เป็น Smart SME ผ่านนโยบาย 4 Go ได้แก่ Go Digital and AI การนำดิจิทัลมาช่วยยกระดับศักยภาพทางธุรกิจของเอสเอ็มอี Go Innovation การพัฒนานวัตกรรม โดยร่วมมือกับเครือข่ายดำเนินโครงการ "กองทุนอินโนเวชัน วัน" (INOVATION ONE) เพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ Go Global การสร้างและขยายโอกาสในตลาดต่างประเทศของเอสเอ็มอี โดยสนับสนุนการพัฒนาสินค้าสู่มาตรฐานต่างๆ และ Go Green สนับสนุนเอสเอ็มอีพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากภารกิจดังกล่าว นายเกรียงไกรยังมีบทบาทในการประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนนักลงทุนต่างประเทศ ในการผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในการลงทุนเพื่อขับเคลื่อน GDP ให้เติบโตและมีความยั่งยืน ส่งผลให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมด้านการบริหารธุรกิจส่วนตัว
นายเกรียงไกรได้พัฒนากิจการของครอบครัวคือโรงพิมพ์นิวไวเต็ก ให้เป็นธุรกิจการพิมพ์แถวหน้าของเมืองไทย โดยขยายสู่ตลาดสิ่งพิมพ์การตลาดและโฆษณาขององค์กรขนาดใหญ่ และยังได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมการพิมพ์ไทยหลายสมัย ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิด Print City คลัสเตอร์ธุรกิจการพิมพ์แห่งแรกของประเทศไทย และวางยุทธศาสตร์การพิมพ์แห่งชาติ โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็น "ศูนย์กลางทางการพิมพ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
"คุณเกรียงไกรเป็นบุคคลต้นแบบสัมมาชีพที่มีความโดดเด่นในการเป็นผู้นำ ผลักดันให้อุตสาหกรรมไทยปรับสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมสีเขียว และให้ความสำคัญกับเอสเอ็มอี ซึ่งถือเป็นแนวคิดของการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรอบด้าน และจะช่วยสร้างเม็ดเงินใหม่ๆ ให้อุตสาหกรรม อันนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้แข็งแรง ยั่งยืนขึ้น" ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าว