กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ยืนหยัดเดินหน้าสู่การเป็น "ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน" ร่วมกับ MUFG จัดงาน "Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2024" งานเจรจาจับคู่ทางธุรกิจแห่งปี พบปะเครือข่ายพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่พร้อมสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจผ่านการขยายตลาดในห้าประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "งาน Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2024 เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของกรุงศรี และ MUFG ที่ต้องการส่งเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างเต็มประสิทธิภาพแก่ผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 ซึ่งนอกจากจำนวนลูกค้าและประเภทอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมงานมากขึ้นแล้ว จำนวนผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และด้วยความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่าง กรุงศรี และMUFG งานในวันนี้จึงประสบความสำเร็จตามพันธกิจ โดยเราสามารถจับคู่ธุรกิจให้ได้กว่า 200 คู่"
นายยู ซาโต กรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าฝ่ายให้คำปรึกษากลยุทธ์ทางการเงิน ธนาคาร MUFG กล่าวว่า "งานจับคู่ทางธุรกิจภายใต้ความร่วมมือของกรุงศรี และ MUFG จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2556 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน สำหรับการจัดงานในปีนี้ นับเป็นปีแรกที่ MUFG ได้เชิญลูกค้าจากธนาคารพันธมิตรทั้งหมดมาร่วมงานด้วย ทั้งนี้ เรามุ่งหวังที่จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทั้งสองประเทศในการขยายธุรกิจ โดยอาศัยความรู้และเครือข่ายระดับโลกที่แข็งแกร่งของ MUFG"
งานเจรจาจับคู่ธุรกิจ Krugsri-MUFG Business Matching Fair 2024 จัดขึ้นต่อเนื่องเพื่อเปิดโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายกิจการไปสู่ต่างประเทศ นอกจากบริการทางการเงินที่กรุงศรีสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเดินหน้าสร้างการเติบโตแล้ว ยังมีการนำองค์ความรู้และเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG มาต่อยอดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งอีกด้วย โดยในปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก ประกอบด้วยบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นกว่า 50 บริษัท จากประเทศไทยกว่า 60 บริษัท และจากประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนอีกมากมาย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจต่าง ๆ อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเชนร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) แล้ว กรุงศรียังมีทีมที่ปรึกษาทางธุรกิจ Krungsri ASEAN LINK ที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจสู่อาเซียนอีกด้วย โดยคาดว่าจะช่วยให้เกิดการต่อยอดในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นการปูทางสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคต่อไปในอนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง
"ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือกันจนงานวันนี้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึง พันธกิจของเราในการเชื่อมโยงบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทไทยเข้าด้วยกัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางธุรกิจแก่ลูกค้าของเราที่เป็นผู้ประกอบการในทุกระดับให้เติบโต และมีแรงขับเคลื่อนเชิงบวกเพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ผ่านการใช้งานนวัตกรรมทางการเงินที่เหมาะสม และตั้งอยู่บนแนวทาง ESG ที่กรุงศรี และ MUFG ยึดมั่น อันเป็นรากฐานที่ดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้มีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนสืบไป และเราจะเดินหน้าพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าแก่ธุรกิจของทุกท่านต่อไป" นายยามาโตะ กล่าวปิดท้าย