นับตั้งแต่เปิดตัวไปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Curvistan Bangkok ได้ยกระดับนิยามของไลฟ์สไตล์และความบันเทิงรูปแบบใหม่ให้กับคอมมูนิตี้ของผู้ชื่นชอบปอร์เช่รวมถึงผู้ที่สนใจ ด้วยการผสมผสานบาร์ คาเฟ่ แกลเลอรีศิลปะ และพื้นที่สำหรับพบปะสังสรรค์ เพื่อตอบโจทย์ความหลงใหลในรถยนต์ วัฒนธรรม และดีไซน์ ในหนึ่งเดียว ตอนนี้เราได้มีนิทรรศการสุดพิเศษ "Porsche Unseen Design Studies" ที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบรถปอร์เช่
Curvistan Bangkok แห่งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก ในฐานะบริษัทผู้ให้การสนับสนุนผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายใน 13 ประเทศ ทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และปอร์เช่ ประเทศไทย ที่เป็นผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมามากกว่า 30 ปี และความร่วมมือระหว่าง สเตฟาน บอกเนอร์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Curves อันเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และชานนท์ เรืองกฤตยา นักธุรกิจวิสัยทัศน์กว้างไกล ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการ Porsche Design Tower Bangkok ที่กำลังจะเริ่มต้นการก่อสร้าง และตั้งอยู่ห่างไปเพียงไม่กี่ก้าวจาก Curvistan Bangkok
ในวันนี้ ทั้งสองท่านในฐานะแฟนพันธุ์แท้ของปอร์เช่ ได้จับมือเปิดตัวนิทรรศการ "Porsche Unseen Design Studies" ขึ้น ณ Curvistan Bangkok ซึ่งจะจัดแสดงในช่วงระยะเวลาจำกัดเท่านั้น
ในนิทรรศการนี้ ไมเคิล มาวเออร์ รองประธานฝ่ายปอร์เช่ไลฟ์สไตล์ ณ ปอร์เช่ ดีไซน์ สตูดิโอ เมืองไวส์ซาค และเป็นผู้ดูแลวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบของปอร์เช่มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ได้เผยถึงคอนเซ็ปต์คาร์ หรือรถยนต์ต้นแบบของปอร์เช่อันท้าทายและน่าอัศจรรย์จากการสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้การดูแลของไมเคิลตลอดช่วงเวลากว่าสองทศวรรษ ซึ่งในวันนี้เป็นครั้งแรกกับการรวบรวมผลงานคอลเลกชัน 'Unseen' ของปอร์เช่มาจัดแสดงในประเทศไทย ถือเป็นเดสติเนชันที่ผู้หลงใหลในปอร์เช่รวมถึงผู้ที่สนใจในยานยนต์ไม่ควรพลาด เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์ด้านดีไซน์อันเป็นเลิศของปอร์เช่สักครั้ง
ไฮไลท์สำคัญของนิทรรศการนี้คือ "Vision Spyder" โมเดลจำลองเท่าขนาดจริง ที่สะท้อนจินตนาการของรถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กสไตล์โมเดิร์นของไมเคิลและทีม ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนาดที่เล็กกะทัดรัดและนวัตกรรมน้ำหนักเบาของรถที่ออกแบบโดยวิศวกรปอร์เช่ในยุค 1950 โดยเฉพาะรุ่น 550 Spyder ที่ทำให้ ฮันส์ แฮร์มันน์ คว้าชัยชนะในการแข่งขันรถสปอร์ต Carrera Panamericana ในปี 1954 โดย "Vision Spyder" โดดเด่นด้วยห้องโดยสารแบบสปาร์ตันที่มีฟีเจอร์ครบครัน และกระจังหน้าแบบแบนราบที่ติดตั้งเหนือเครื่องยนต์แบบวางกลางลำ (Midengine) พร้อมลายคาดรถสีแดง (Racing stripes) และครีบหลังท้ายรถขนาดพอเหมาะ
ที่ Curvistan ผู้เข้าชมยังสามารถยลโฉมปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส รุ่น เซเลสเชียล เจด (Taycan Turbo S Celestial Jade) ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ แบบเอ็กซ์คูลซีฟ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในเดือนธันวาคมนี้ ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ Sonderwunsch ของปอร์เช่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายละเอียดที่ถูกผสานกับสัญลักษณ์ต่างๆ ในตำนาน ผ่านโลโก้ และเทคโนโลยีสีพิเศษ Chromaflair จะทำให้สีของรถจะสะท้อนแสงในหลากหลายมิติ สร้างเอฟเฟกต์สีสันที่เปลี่ยนแปลงไปตามแสง ทำให้ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันนี้ดูโดดเด่นมากขึ้น
นอกจากยนตรกรรมสุดพิเศษทั้ง 2 คันนี้ ผู้เข้าชมนิทรรศการยังจะได้ชมโมเดลจำลองขนาด 1:3 ของรถต้นแบบหลากหลายรุ่น อาทิ Macan "Vision Safari" รถเอสยูวีที่ทดลองออกแบบให้กลายเป็นรถสำหรับแอดเวนเจอร์ และโมเดลคอนเซ็ปต์ของไฮเปอร์คาร์อย่าง "Vision 918 RS" และ "Vision 920" รวมถึง "Vision E" อันเป็นการทดลองออกแบบที่จินตนาการถึงรถแข่ง Formula E ที่สามารถพัฒนาเป็นรถแข่งสำหรับลูกค้าทั่วไป
สเตฟาน บอกเนอร์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของวิสัยทัศน์สุดสร้างสรรค์เบื้องหลังนิตยสาร Curves และเป็นผู้เขียนและตีพิมพ์หนังสือ "Porsche Unseen" ที่เผยให้เห็นถึงความลับของงานออกแบบอันทรงคุณค่าของปอร์เช่ ดีไซน์ กล่าวว่า "คอลเลกชัน Porsche Unseen เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุด การได้นำผลงานเหล่านี้มาจัดแสดงที่ Curvistan Bangkok เหมือนฝันที่กลายเป็นจริง เราหวังว่าผู้ที่ชื่นชอบในด้านดีไซน์ และแฟน ๆ ของปอร์เช่ รวมทั้งคนที่ชื่นชอบรถยนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศ จะไม่พลาดมาเยือน Curvistan สักครั้งหากได้มีโอกาสมากรุงเทพ เพราะนี่คือนิทรรศการสุดพิเศษที่ต้องหาโอกาสมาชมให้ได้จริงๆ"
นิทรรศการ "Porsche Unseen Design Studies" จะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 - 28 กุมภาพันธ์ 2568
ณ Curvistan Bangkok โดยเปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00-18:00 น.
ในอีเวนต์เปิดตัวนิทรรศการ "Porsche Unseen Design Studies" ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์อยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ของโครงการ Porsche Design Tower Bangkok โดยมีการเผยโฉมคอนเซ็ปต์ห้องครัวระดับเวิลด์คลาส ซึ่งมีพื้นที่ประกอบอาหาร 3 โซน ที่มีครัว 3 รูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยเหนือระดับบนทำเลศักยภาพอย่างสุขุมวิท 38
ชุดครัวระดับมืออาชีพ (Professional Kitchen) พร้อมตอบโจทย์การทำอาหารอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งอุปกรณ์ที่ให้ความร้อนสูงและควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสามารถใช้เตาแก๊สได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการทำอาหารแบบผัดและทอดสไตล์เอเชีย ส่วนครัวสไตล์ตะวันตก (Western Kitchen) มาพร้อมอุปกรณ์โมเดิร์นแบบครบครัน ที่สามารถรองรับการทำอาหารระดับเชฟมิชลินสตาร์ สำหรับการรังสรรค์เมนูจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังยกระดับประสบการณ์ในการสังสรรค์ด้วย ชุดครัวแบบเตาถ่าน (Semi-Outdoor BBQ Area) ในการประกอบอาหาร มอบประสบการณ์การปิ้งย่างบาร์บีคิวได้อย่างสุนทรีย์
ห้องครัวในทุกยูนิตของ Porsche Design Tower Bangkok เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก นับตั้งแต่การเลือกใช้ชุดครัวจาก Arclinea ภายใต้แนวทางการออกแบบของ Antonio Citterio สถาปนิกชื่อก้องโลก พร้อมผสานประสิทธิภาพและความหรูหราเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยลิ้นชักระบบไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ครัวระดับพรีเมียมจาก Wolf และ Sub-Zero และเตาแก๊ส (Gas Turbo Wok) จาก Marrone และเตาถ่าน Josper
ชานนท์ เรืองกฤตยา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ โครงการ Porsche Design Tower Bangkok กล่าวว่า "Porsche Design Tower Bangkok มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยแบบอัลตร้าลักชัวรี่อย่างแท้จริง ความทุ่มเทด้านความเป็นเลิศและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ได้สะท้อนลงในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของห้องครัว ซึ่งผมได้ดูแลและบรรจงคัดสรรทุกองค์ประกอบในห้องครัวจากแบรนด์คุณภาพระดับโลกที่ดีที่สุดด้วยตนเอง เพื่อสร้างสรรค์ที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ที่แตกต่าง ความใส่ใจเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเป็นหน้าที่ แต่เกิดจากความหลงใหลและแพสชั่นที่ผมมีต่อโครงการ Porsche Design Tower Bangkok เพราะสำหรับเรา พื้นที่ครัวเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นในการเติมเต็มความสุขของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารระดับมิชลินสตาร์ หรือการสังสรรค์ที่เปี่ยมด้วยความบันเทิงและแรงบันดาลใจ เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการอันแสนพิเศษนี้"