เรื่องการเงินเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวัน เพราะเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการรายรับและรายจ่ายให้เป็นระบบ เพื่อให้สามารถมีคุณภาพชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีความสุข หนึ่งในทางเลือกทางการเงินที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีจุดประสงค์และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมกันคือช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในยามจำเป็น การมีสิ่งของชิ้นใหญ่โดยไม่ต้องใช้เงินก้อน หรือแม้แต่เรื่องการศึกษา ทั้งสองผลิตภัณฑ์มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้จึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละบุคคล เราจึงจำเป็นที่จะต้องมาทำความรู้จักทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ว่าเป็นอย่างไร
บัตรกดเงินสด คืออะไรบัตรกดเงินสด เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินนำเสนอให้แก่ลูกค้า โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรสามารถสั่งเงินโอนเข้าบัญชี หรือเบิกถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้ตามวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติไว้ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันในการสมัครบัตรกดเงินสด
หลักการทำงานของบัตรกดเงินสด คือ เมื่อผู้ถือบัตรได้รับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้ว ก็สามารถสั่งเงินโอนเข้าบัญชี หรือกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มที่ให้บริการได้ทันที โดยจะมีการหักวงเงินจากวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติไว้
เมื่อผู้ถือบัตรชำระคืนเงินต้นตามงวดที่กำหนด วงเงินสินเชื่อส่วนที่ได้ชำระคืนแล้วก็จะกลับมาเป็นวงเงินสินเชื่อที่สามารถนำไปกดเบิกเงินสดใหม่ได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นข้อดีที่สำคัญของบัตรกดเงินสด ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินสดเป็นในยามจำเป็น
ข้อดีของบัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสดจึงถือเป็นทางเลือกทางการเงินที่น่าสนใจ ช่วยอำนวยความสะดวกและความคล่องตัวให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการก็ควรพิจารณาถึงความจำเป็นและความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของตนเองด้วย เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินในอนาคต
สินเชื่อส่วนบุคคล คืออะไร
สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นรูปแบบหนึ่งของการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ เช่น ธนาคารพาณิชย์ หรือสหกรณ์ เป็นต้น โดยผู้กู้จะได้รับเงินก้อนเดียวจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่างๆ จากนั้นจะต้องผ่อนชำระคืนให้แก่ผู้ให้กู้เป็นงวดรายเดือนตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา พร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่ตกลงกันไว้
สินเชื่อส่วนบุคคลมักจะมีวงเงินสูงกว่าบัตรกดเงินสด โดยวงเงินขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รายได้ของผู้กู้ ประวัติการเงิน และหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นต้น สำหรับผู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ธนาคารอาจจะอนุมัติวงเงินในจำนวนที่ต่ำกว่า
นอกจากนี้ สินเชื่อส่วนบุคคลมักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัตรกดเงินสด เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินสูงและระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนานกว่า อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน รวมถึงประวัติเครดิตและความน่าเชื่อถือของผู้กู้เอง
ในการขอสินเชื่อส่วนบุคคล ผู้สมัครจะต้องผ่านการพิจารณาคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงินอย่างเข้มงวด เช่น ต้องมีรายได้ประจำ ไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ และมีเครดิตบูโรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เป็นต้น เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จึงจะสามารถรับเงินก้อนได้ทั้งจำนวน โดยจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ อย่างเคร่งครัด หากผิดนัดชำระเงินงวด อาจจะถูกปรับดอกเบี้ยหรือถูกบังคับยึดทรัพย์สินตามกฎหมายได้
ข้อดีของสินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อส่วนบุคคลจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยเฉพาะเพื่อการลงทุนหรือการใช้จ่ายในระยะยาว มีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น และมีหลักประกันทรัพย์สินที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม ผู้กู้ควรศึกษาเงื่อนไขและพิจารณาความเหมาะสมด้านการเงินของตนเองให้ดีก่อนการขอสินเชื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้สินที่อาจตามมาได้ในอนาคต
อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคล คำนวณอย่างไร? มาดูกัน!
อัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อ ทั้งบัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยบัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลจะมีวิธีการคำนวณดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ดังนี้
บัตรกดเงินสด
- ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณตามยอดใช้จ่ายจริงในแต่ละรายการ โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่ทำรายการกดเงินหรือใช้จ่ายนั้นๆ และจะคิดดอกเบี้ยต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการชำระคืนเต็มจำนวน
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส อยู่ที่ 19.8% - 25% ต่อปี ซึ่งทางบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส มีโปรโมชันสำหรับลูกค้าใหม่ สามารถเบิกถอนเงินสดในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 30 วัน* เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น)
- สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล การคิดดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อและเงื่อนไขที่ระบุในสัญญากู้ยืมเงิน โดยทั่วไปจะมี 2 รูปแบบหลัก ได้แก่
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 18 - 25% ต่อปีเช่นเดียวกับบัตรกดเงินสด แต่อาจมีการเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำกว่านี้เป็นโปรโมชันสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม
บัตรกดเงินสด กับ สินเชื่อส่วนบุคคล แตกต่างกันอย่างไร
บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
บัตรกดเงินสด | สินเชื่อส่วนบุคคล | |
1. วงเงินสินเชื่อ | อนุมัติวงเงินสินเชื่อในจำนวนที่จำกัดตามเกณฑ์ของธนาคาร | อนุมัติวงเงินกู้ที่สูงกว่า โดยอาจมีหรือไม่มีหลักประกันก็ได้ |
2. รูปแบบการชำระหนี้ | ชำระหนี้ได้ทั้งแบบชำระขั้นต่ำหรือชำระเต็มจำนวน | ผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือนตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา |
3. อัตราดอกเบี้ย | มีอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกับสินเชื่อส่วนบุคคล | อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับนโยบายและเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน |
4. การใช้งาน | สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น ถอนเงินสด ชำระค่าสินค้า โอนเงิน | จะได้รับเงินก้อนทั้งจำนวนเพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ |
5. เงื่อนไขการขอสินเชื่อ | ไม่จำเป็นต้องมีหลักประกัน | บางประเภทอาจต้องมีบุคคลค้ำประกันหรือวางหลักทรัพย์เป็นประกัน |
6. ระยะเวลาการผ่อนชำระ | สามารถผ่อนชำระได้ในระยะเวลาสั้น (ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของร้านค้า) | มีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนานกว่า ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี |
7. กลุ่มผู้ใช้งาน | เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินสดเพื่อใช้จ่ายเมื่อจำเป็น หรือต้องการเงินสดเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง | เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินจำนวนมากเพื่อการลงทุนหรือใช้จ่ายในระยะยาว |
สรุปคือ การตัดสินใจเลือกใช้บัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นควรพิจารณาถึงความจำเป็นในการในการใช้เงิน เพื่อประเมินว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทใดเหมาะสมกับเรามากที่สุด โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ อาทิ วงเงินที่ต้องการ ระยะเวลาการชำระคืน ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมถึงความพร้อมทางการเงินของตนเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากปัญหาหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การใช้บริการอย่างระมัดระวังและรอบคอบจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิทธิพิเศษและประโยชน์ที่ได้รับหลังจากสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสจากที่อ่านมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าบัตรกดเงินสดเป็นทางเลือกทางการเงินที่ให้ผู้ใช้สามารถเบิกถอนเงินสดได้ตามที่ได้รับอนุมัติ โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักประกัน ซึ่งมีความสะดวกสบาย โดยบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสนั้น มีสิทธิพิเศษและประโยชน์ที่ได้รับหลังจากสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ดังนี้
1. ความสะดวกสบายในการเบิกถอนเงิน
- เข้าถึงบริการ DREAMwallet บน Umay+ Application ได้อย่างง่ายดาย
- กดเงินสดได้ทันทีผ่านตู้ ATM ทั่วประเทศ
- ทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชม. ผ่าน Umay+ Application
2. อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ประหยัด
- อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกตามยอดใช้จริง หากไม่เบิกถอนก็ไม่เสียดอกเบี้ย
- ฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินเข้าบัญชีผ่าน Umay+ Application
- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
3. สิทธิพิเศษและโปรโมชันพิเศษ
- ลูกค้าใหม่เบิกถอนเงินสดได้ในอัตรา 0% นาน 30 วัน*
- ผ่อนชำระสินค้าในอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ร้านค้าร่วมรายการ**
- รับสิทธิพิเศษและโปรโมชันอื่นๆ อีกมากมาย
4. ความสะดวกในการสมัครและใช้งาน
- สมัครง่าย อนุมัติแล้ว เปิดบัตรและกดเงินสดได้ทันที
5. บริการออนไลน์ครบวงจร
- สมัคร และใช้บริการได้ผ่านช่องทางออนไลน์
- ตรวจสอบยอดเงิน รายการ และชำระเงินได้ง่ายๆ ผ่าน Umay+ Application
ด้วยสิทธิประโยชน์มากมายที่คุ้มค่าเหล่านี้ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส จึงถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและคุ้มค่าเมื่อจำเป็นต้องใช้เงินสด หากสนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชม. ที่ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform
อย่างไรก็ตาม การวางแผนทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมการใช้จ่าย และสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2695 0000
*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี
**อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อผ่อนชำระ 16.44% - 25% ต่อปี, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว