เมื่อเร็วๆ นี้ รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา และรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) นำทีมผู้บริหารสำนักงาน ก.ค.ศ. เข้ารับรางวัลในโครงการ Thailand HR Innovation Award 2024 ในงานวันนักบริหารงานบุคคล (Thailand HR Day 2024) ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ กล่าวว่า จากนโยบาย "ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา" และ "ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น" (โยกย้ายกลับภูมิลำเนาด้วยความโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง) ภายใต้นโยบาย "เรียนดี มีความสุข" โดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ทางสำนักงาน ก.ค.ศ. ในฐานะองค์กรกลางในการดำเนินงานด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติโดยการพัฒนาระบบเพื่อรองรับการบริหารงานบุคคลในยุคดิจิทัล ทั้งในส่วนของระบบประเมินวิทยฐานะดิจิทัล (Digital Performance Appraisal: DPA) และระบบจับคู่ครูคืนถิ่น (Teacher Matching System: TMS) ถือเป็นการพลิกโฉมการบริหารงานบุคคลให้มีความทันสมัย ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นับเป็นความภาคภูมิใจที่สำนักงาน ก.ค.ศ. กระทรวงศึกษาธิการซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ได้เริ่มต้นนำเอานวัตกรรมด้านการบริหารงานบุคคลเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ และยังเป็นปีแรกที่เราได้ส่งนวัตกรรม ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมการประกวดในโครงการ Thailand HR Innovation Award 2024 และได้รับรางวัลในระดับ SILVER AWARD จากโครงการระบบจับคู่ครูคืนถิ่น (Teacher Matching System: TMS) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณครู ที่ต้องการขอย้ายสับเปลี่ยนเพื่อกลับไปสอนในภูมิลำเนาของตัวเองผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือหน่วยงานการศึกษาเพื่อยื่นคำร้องข้อย้ายเป็นเอกสาร และได้รับรางวัลในระดับ GOLD AWARD จากโครงการระบบการประเมินวิทยฐานะดิจิทัล (Digital Performance Appraisal: DPA) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยลดความยุ่งยาก ซับซ้อนในการประเมินวิทยฐานะ ประหยัดเวลาในการดำเนินการ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายทางงบประมาณให้กับประเทศ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกโฉมระบบการประเมินวิทยฐานะ ที่มุ่งเน้นไปที่การสอนและการพัฒนา สร้างความก้าวหน้าในวิชาชีพครูด้วยระบบดิจิทัล
"ทั้ง 2 รางวัลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ สำนักงาน ก.ค.ศ. และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการพัฒนากระบวนการดำเนินงานโดยนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนในการปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษา เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและอนาคตของประเทศ" รศ.ดร.ประวิต กล่าวในตอนท้าย
สำหรับโครงการรางวัลนวัตกรรมการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ประจำปี พ.ศ. 2567 (THAILAND HR INNOVATION AWARD 2024) จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (FTPI) คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (HROD-NIDA) สถาบันพัฒนาวิชาชีพทรัพยากรบุคคล (IHPD) และสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เพื่อเฟ้นหาหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่แสวงหาแนวทางในการพัฒนากลยุทธ์การบริหารขององค์กรอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในปีนี้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 86 โครงการ ผ่านเกณฑ์การประกวดและได้รับรางวัล 13 โครงการ แบ่งเป็น รางวัล SILVER AWARD จำนวน 9 รางวัล และ GOLD AWARD จำนวน 4 รางวัล ทั้งนี้ ผู้จัดโครงการมุ่งหวังให้องค์กรต่างๆ ร่วมกันพัฒนาการดำเนินงานในฐานะผู้ดูแลทรัพยากรบุคคล เพื่อเป็นการร่วมกันพัฒนาทุนมนุษย์ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป