กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศทิศทางความร่วมมือการส่งเสริมการท่องเที่ยว ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้นโยบายการส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ "ท่องเที่ยว สุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1 มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ประเทศ โดยการยกระดับสุขภาพของประชาชน การส่งเสริมการป้องกันโรค และการพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพที่มีคุณภาพ
นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีเปิดกิจกรรม "ท่องเที่ยว สุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1" โดยเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นระหว่างกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน สู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ณ ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี
นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบนเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมที่โดดเด่น และความพร้อมด้านบริการสุขภาพระดับมาตรฐาน การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของพื้นที่ให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ แสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการในพื้นที่และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เศรษฐกิจสุขภาพ เป็นนโยบายที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ประเทศ โดยการยกระดับสุขภาพของประชาชน การส่งเสริมการป้องกันโรค และการพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร บริการด้านสุขภาพ หรือการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของการทำให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางด้านสุขภาพระดับโลก ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ก็เป็นแนวทางการพัฒนาที่สำคัญของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์ที่เสริมสร้างสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ประเทศไทยมีจุดแข็งที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการบริการสปาที่มีชื่อเสียงระดับโลก การแพทย์แผนไทยที่เป็นมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ผสานวัฒนธรรมไทยเข้ากับการส่งเสริมสุขภาพความร่วมมือระหว่างสองกระทรวงนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญ ในการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาที่เชื่อมโยงสุขภาพกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เราเล็งเห็นว่าความร่วมมือจะช่วยสร้างมาตรฐานการบริการที่สอดคล้องกับความต้องการระดับสากล ขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ และเสริมสร้างโอกาสให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำในด้านเศรษฐกิจสุขภาพ"
"สำหรับการจัดงานครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในระดับโลกได้ ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนร้านค้าและผู้ประกอบการในพื้นที่ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข รวมทั้งส่งเสริมการใช้การแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทยเพื่อการแพทย์ในระบบบริการ ยกระดับภูมิปัญญาไทยให้มีคุณภาพระดับสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ตัวแทนร้านค้า/ผู้ประกอบการโรงแรม สปา นวดสุขภาพ จำนวน 100 ร้าน และร้านค้าชุมชน OTOP จาก 8 จังหวัด ในเขตสุขภาพที่ 1" นางสาวนัทรียา กล่าวทิ้งท้าย