นางฐิติชยา อนันต์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเจ้าหน้าที่ (สกจ.) สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงของข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญกระทำผิดวินัยในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการฯ และศูนย์กีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) จำนวน 7 โครงการว่า ภายหลังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่ง กทม. ที่ 2364/2567 ลงวันที่ 1 ส.ค. 67 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งประธานกรรมการรับทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 67 และมีการประชุมคณะกรรมการสอบสวนฯ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 67 และในวันที่ 10 ก.ย. 67 มีคำสั่ง กทม. ที่ 3018/2567 เรื่อง เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง (ครั้งที่ 1) เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายคัดค้านกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงบางราย ต่อมาจึงได้มีคำสั่ง กทม. ที่ 4575/2567 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 67 เรื่องเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง (ครั้งที่ 2) เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายคัดค้านกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงบางราย และมีการเพิ่มจำนวนผู้ถูกกล่าวหาตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แจ้งผลการตรวจสอบ และคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ตรวจพบว่า ผู้มีมูลทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงเพิ่มเติม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง สรุปสำนวนรายงานต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งครบกำหนดระยะเวลาการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง 120 วัน ณ วันที่ 6 ธ.ค. 57
นางสาวอรัญญา พรไชยะ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สกก.) กทม. กล่าวว่า สกก. ในฐานะเลขาธิการศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านทุจริตของกรุงเทพมหานครได้ส่งรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงการตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 7 โครงการให้ปลัดกรุงเทพมหานครและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เรียบร้อยแล้ว