วีโร่คว้ารางวัล Influencer Marketing Agency of the Year ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จาก Campaign Asia ความสำเร็จครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโต ของธุรกิจด้านอินฟลูเอนเซอร์ของบริษัท และความทุ่มเทในการสร้างสรรค์แคมเปญที่มีคุณค่าผ่านเหล่าครีเอเตอร์
งานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 โดยมีบริษัท PR ชั้นนำและผู้นำด้านธุรกิจสื่อระดับแนวหน้าเข้าร่วม เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของอุตสาหกรรมการประชาสัมพันธ์ และการตลาดตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา
อุตสาหกรรม Influencer Marketing หรือการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเติบโต เป็นสองเท่าในช่วงปี 2566 ถึงปี 2569 โดยคาดว่ามูลค่าการลงทุนในครีเอเตอร์จะสูงถึง 693.70 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่มแฟชั่นและความงาม การขยายตัวของ อุตสาหกรรมเหล่านี้ได้นำไปสู่การเกิดขึ้นของภาคส่วนใหม่ที่เรียกว่า "เศรษฐกิจครีเอเตอร์" และในส่วนของวีโร่เอง ก็ได้มีการ ยกระดับการพัฒนานวัตกรรม กระบวนการทำงาน และการบริหารองค์กรในธุรกิจการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ มาอย่างต่อเนื่อง
"แนวคิดในด้านการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ของเราคือ ครีเอเตอร์และแบรนด์จะสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ เมื่อพวกเขามีอิสระในการถ่ายทอดความเป็นตัวของตัวเองผ่านเคมเปญต่าง ๆ" อุมาพร วิทเทเกอร์-ทอมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าและประธานฝ่ายอินฟลูเอนเซอร์ของวีโร่ กล่าว "รางวัลนี้นับเป็นเครื่องตอกย้ำว่า แนวทางของเราที่ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ การนำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์ที่ดี และการเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่า จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างได้"
กลยุทธ์ด้านการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเอกลักษณ์ของวีโร่ ส่งผลให้ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจส่วนนี้เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 75% ต่อปี ปัจจุบันบริษัทได้ให้บริการลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติ แบรนด์ระดับโลก และองค์กรชั้นนำรวมกว่า 76 ราย โดยหลายรายเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ร่วมงานกับบริษัทมาอย่างยาวนาน และหลายแคมเปญที่ประสบความสำเร็จของวีโร่ เกิดจากการร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำอย่าง TikTok, Grab, Unilever, Spotify และ การท่องเที่ยวสิงคโปร์
"เราทุ่มเทเวลาและทรัพยากรในการสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอินฟลูเอนเซอร์ในหลายประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย พร้อมทั้งสนับสนุนให้ทีมงานได้พัฒนาวิธีการทำงานใหม่ ๆ เพื่อความสำเร็จในแคมเปญ อินฟลูเอนเซอร์ของลูกค้า" ไบรอัน กริฟฟิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวีโร่ กล่าว "สิ่งที่เราเห็นวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ของศักยภาพที่อินฟลูเอนเซอร์สามารถทำได้ในการเชื่อมแบรนด์เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกำหนดการรับรู้และพฤติกรรม ของผู้บริโภค"
ในฐานะผู้นำในธุรกิจนี้ วีโร่มีบริการด้านอินฟลูเอนเซอร์ที่ครบวงจรสำหรับลูกค้าทั่วภูมิภาค ผ่านเครื่องมือ InFluent ซึ่งเป็นระบบการทำงานที่วีโร่พัฒนาขึ้นเพื่อบริหารจัดการแคมเปญการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์แบบครบวงจรทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ผ่านเครื่องมือและมาตรฐานที่ออกแบบมาให้แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ทำงานร่วมกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
InFluent ประกอบด้วยเครื่องมือและโปรแกรม 5 ส่วน ได้แก่ TrueVibe, Happy Hours, KOL LAB, Echo+ และ Rising Stars ซึ่งช่วยประเมินความเหมาะสมระหว่างแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์โดยใช้ข้อมูล ที่สามารถแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลเชิงลึก ระหว่างวีโร่กับลูกค้า พร้อมไปกับการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับครีเอเตอร์ในทุกระดับและทุกวงการ
"อินฟลูเอนเซอร์มีความสามารถพิเศษในการดึงดูดความสนใจของผู้คน ผ่านบุคลิกที่เข้าถึงได้และความเป็นธรรมชาติที่พวกเขา แสดงออกมา" รฉัตร พวงเพ็ชร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหารอินฟลูเอนเซอร์ของวีโร่ประเทศไทย กล่าว "พวกเขายังช่วยสร้างการ เปลี่ยนแปลงบนโลกออนไลน์และผลักดันเทรนด์ทางวัฒนธรรมใหม่ ๆ และด้วยการสนับสนุนที่เหมาะสม พวกเขาจะเป็นกำลัง สำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคม ที่วีโร่ เราจึงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานงานอินฟลูเอนเซอร์ ที่ไม่เพียงเพื่อตอบโจทย์ความสำเร็จของแบรนด์ แต่ยังช่วยให้อินฟลูเอนเซอร์เติบโตไปพร้อมกับแบรนด์ที่พวกเขาร่วมงานด้วย"
ในปี 2568 วีโร่มีแผนที่จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจครีเอเตอร์ผ่านการก่อตั้งสมาคมครีเอเตอร์แห่งเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ (CASA) ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดตั้ง โดย CASA มีเป้าหมายในการสร้างมาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับครีเอเตอร์ ในภูมิภาค ผ่านการให้ความรู้และการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ วีโร่จะมุ่งมั่นผลิตฐานข้อมูลและ งานวิจัยเกี่ยวกับเศรษฐกิจครีเอเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 จะมุ่งเน้นศึกษากลุ่มครีเอเตอร์ ระดับไมโครและนาโน
วีโร่ยังมีแผนขยายความร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ผ่านการสร้างเครือข่ายและการจัดเวิร์กช็อป เพื่อสร้างความสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของแคมเปญที่วีโร่ทำร่วมกับแบรนด์