ระวัง! "โนโรไวรัส" ระบาดหนักหน้าหนาว! ใครบ้างที่เสี่ยง?
จากข่าว "โนโรไวรัส" ที่กำลังระบาดในหลายพื้นที่ของประเทศจีน ไวรัสชนิดนี้มีความทนทานต่อเจลแอลกอฮอล์ และสามารถติดต่อได้ง่าย ทุกคนจึงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้
รู้จักโนโรไวรัส (Norovirus)โนโรไวรัสเป็นสาเหตุของการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร โดยสามารถแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว แม้ได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย เชื้อไวรัสนี้ยังทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อหลายชนิดทำให้กำจัดได้ยาก เมื่อโนโรไวรัสปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำดื่ม อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียและอาเจียน และเนื่องจากเชื้อแพร่กระจายได้รวดเร็ว จึงสามารถติดต่อกันได้ง่าย การระบาดของโนโรไวรัสมักพบมากในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในสภาพอากาศเย็น เชื้อนี้สามารถก่อโรคได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ดังนั้น การยึดหลัก "สุก ร้อน สะอาด" ในการรับประทานอาหารและดูแลสุขอนามัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ!
เชื้อโนโรไวรัสสามารถติดต่อได้ง่ายจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ด้วยพฤติกรรมต่างๆ เช่น
- การบริโภคอาหารน้ำดื่มและน้ำแข็งที่มีการปนเปื้อนเชื้อ
- การสัมผัสผู้ป่วยโดยตรงหรือทานอาหารและน้ำที่ผู้ป่วยเป็นผู้เตรียมหรือปรุง โดยผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้แม้ไม่มีอาการ
- การนำมือที่สัมผัสพื้นผิวหรือวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าปากโดยที่ไม่ได้ล้างมือ
อาการที่พบบ่อยหลังได้รับเชื้อโนโรไวรัส เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลวและอาจมีไข้ร่วมด้วย หากมีอาการเหล่านี้ ควรดูแลร่างกายอย่างใกล้ชิด
การรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งสามารถทำได้โดยการดื่มสารละลายเกลือแร่ (ORS) หากมีอาการรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
มาดูวิธีป้องกันตัวและรับมือให้พร้อม!การป้องกันสามารถทำได้โดยการล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารหรือหยิบจับอาหาร และหลังจากเข้าห้องน้ำ โดยใช้สบู่และล้างอย่างน้อย 15-20 วินาที นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำที่สะอาดและเลือกบริโภคอาหารที่สุก สะอาด สดใหม่ รวมทั้งควรใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
เชื้อโนโรไวรัส สามารถติดต่อได้ง่าย ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน รวมถึงยังไม่มียาที่กำจัดเชื้อไวรัสชนิดนี้โดยเฉพาะ จึงควรดูแลเรื่องการรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด ที่สำคัญล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง เหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ห่างไกลจากเชื้อโนโรไวรัสได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมCall Center 1512Line Official : @ramhopital