JMART และ JMT กอดคออยู่ใน SET100 ต่อเนื่อง และได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์เข้าใหม่ในดัชนี SETESG รอบครึ่งปีแรก 2568 ซึ่งสะท้อนภาพขนาดของมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ 100 อันดับแรก และการเน้นย้ำเรื่อง ESG ทั้งในมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจภายใต้ความโปร่งใสและธรรมาภิบาล เริ่มคำนวณใน SETEGS Index ใหม่ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) กล่าวว่า JMART และ JMT ได้รับเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี SETESG ในรอบครึ่งปีแรก 2568 (1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2568) ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคากลุ่มหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) และมีสภาพคล่องเพียงพอ อีกทั้ง JMART และ JMT ยังคงอยู่ในดัชนี SET100 ต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในการดำเนินธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นและความน่าสนใจในการลงทุนจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ดี การดำเนินธุรกิจบนหลักของ ESG คือ หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่การเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้น Commerce Tech และ FinTech ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาทรานส์ฟอร์มองค์กร และยกระดับการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผ่าน Core Business ในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้ามือถือ และเทคโนโลยี ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มศูนย์การค้า
ด้าน นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวว่า พร้อมเดินหน้าธุรกิจริหารหนี้ สร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ในการเข้ามาช่วยสถาบันการเงินทั้ง Bank และ Non-Bank บริหารหนี้เสียในระบบ (NPL) รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งนับเป็นโจทย์ที่ใหญ่มากของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ทั้งหมดนี้ คือฟันเฟืองสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจของประเทศ ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไป