ซีอีโอธุรกิจค้าปลีกรักษาสมดุลระหว่างความกังวลทางเศรษฐกิจกับการลงทุนใน AI

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 24, 2024 08:49 —ThaiPR.net

ซีอีโอธุรกิจค้าปลีกรักษาสมดุลระหว่างความกังวลทางเศรษฐกิจกับการลงทุนใน AI
  • ซีอีโอธุรกิจสินค้าอุปโภคและค้าปลีก ร้อยละ 82 มั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจของตน มีเพียงร้อยละ 59 ที่มีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในทุกภาคธุรกิจที่ได้ทำการสำรวจ
  • ในปี 2567 ความท้าทายหลักสามประเด็นที่ซีอีโอธุรกิจสินค้าอุปโภคและค้าปลีก ต้องเผชิญ ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ (ร้อยละ 58) ความซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ (ร้อยละ 53) และการนำ Gen AI มาใช้ (ร้อยละ 48)
  • ซีอีโอธุรกิจสินค้าอุปโภคและค้าปลีก ร้อยละ 81 (สูงที่สุดในทุกภาคธุรกิจ) ระบุว่ากฎระเบียบเกี่ยวกับ Gen AI ควรมีความเข้มงวดในระดับเดียวกับการดำเนินการด้านความรับผิดชอบต่อสภาพภูมิอากาศ
  • ซีอีโอธุรกิจสินค้าอุปโภคและค้าปลีก ร้อยละ 74 มองว่าหลักการด้าน ESG ได้ถูกบูรณาการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอย่างสมบูรณ์ และร้อยละ 63 มั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2573 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทุกภาคธุรกิจ คือ ร้อยละ 51 อย่างมีนัยสำคัญ

การสำรวจซีอีโอในธุรกิจสินค้าอุปโภคและค้าปลีก (Consumer and retail: C&R) จำนวน 120 คนทั่วโลกแสดงให้เห็นว่าซีอีโอมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจของตน แต่มีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในสามปีข้างหน้า

การสำรวจ CEO Outlook ปี 2567 ของเคพีเอ็มจี ซึ่งดำเนินมาในระดับโลกเป็นปีที่สิบ เผยว่าผู้นำภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกร้อยละ 82 เชื่อว่าพวกเขากำลังอยู่ในระยะเติบโต (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 79 ในปี 2566) แต่มีเพียงร้อยละ 59 เท่านั้นที่มองในแง่บวกเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับทุกภาคธุรกิจที่เคพีเอ็มจีได้ทำการสำรวจ

ความท้าทายสามอันดับแรกสำหรับซีอีโอธุรกิจสินค้าอุปโภคและค้าปลีก ในปี 2567 ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ (ร้อยละ 58) ความซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ (ร้อยละ 53) และการนำเทคโนโลยี Gen AI มาใช้ (ร้อยละ 48) แม้ต้องเผชิญความท้าทายเหล่านี้ ความเชื่อมั่นที่พวกเขามีต่อการเติบโตของภาคธุรกิจยังคงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 76 ในปี 2566 เป็นร้อยละ 81 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรวมทุกภาคธุรกิจอยู่ที่ร้อยละ 74 ความเชื่อมั่นเชิงบวกนี้อาจเป็นผลมาจากบทบาทของธุรกิจค้าปลีกใน "เศรษฐกิจจริง" (real economy) ในด้านการจัดหาสินค้าที่จำเป็นและบริการต่าง ๆ ที่ยังคงมีความสำคัญแม้ในช่วงที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

การแข่งขันเพื่อโอบรับ AI

เทคโนโลยี Gen AI เป็นวาระสำคัญของซีอีโอภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีก โดยร้อยละ 81 มองว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญ โดยเฉพาะในการขายและการตลาด ขณะที่ซีอีโอจำนวนมากได้สำรวจศักยภาพของ AI แนวทางในการใช้งานก็กำลังเปลี่ยนจากโครงการทดลองไปสู่การสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรม ซีอีโอภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 67) มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนกับ Gen AI ภายในสามถึงห้าปีนี้

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ซีอีโอเล็งเห็นจากการนำ Gen AI มาใช้งานก็ได้เปลี่ยนไปในปีนี้เช่นกัน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรมและการนำ AI มาใช้งานในสื่อ ซีอีโอธุรกิจสินค้าอุปโภคและค้าปลีก ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เป็นผลพวงของการเข้ามาที่รวดเร็วของเทคโนโลยี ซีอีโอร้อยละ 61 ชี้ว่า ความท้าทายด้านจริยธรรมเป็นหนึ่งในความท้าทายที่รับมือได้ยากมากที่สุดในการนำ AI มาใช้ในธุรกิจ และซีอีโอภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกยังตระหนักถึงความจำเป็นในการกำกับดูแลที่เข้มงวด โดยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 84 มากที่สุดในทุกภาคธุรกิจ) กล่าวว่าระดับของข้อบังคับที่เกี่ยวกับ Gen AI ควรมีความเข้มงวดในระดับเดียวกับการดำเนินการด้านความรับผิดชอบต่อสภาพภูมิอากาศ

ESG: ความมั่นใจสูงขึ้นแม้มีช่องว่างในแผนงาน Net zero

ซีอีโอภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกเข้าใจว่าการดำเนินงานด้าน ESG อย่างมีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์ และการสร้างความไว้วางใจจากสาธารณชน การละเลยในเรื่องนี้อาจส่งผลเสียต่อความยั่งยืนและชื่อเสียงของแบรนด์ โดยร้อยละ 74 ของผู้นำภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกระบุว่า หลักการ ESG ได้รับการบูรณาการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจของพวกเขาอย่างเต็มรูปแบบแล้ว พวกเขายังเล็งเห็นความสำคัญของความยั่งยืนที่มีต่อการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและชื่อเสียงของแบรนด์ โดยร้อยละ 44 เชื่อว่ากลยุทธ์ ESG ของพวกเขามีผลกระทบต่อสองด้านนี้มากที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น ซีอีโอร้อยละ 63 กล่าวว่าพวกเขามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมาย Net zero ได้ภายในปี 2573 สูงกว่าอัตราส่วนเฉลี่ยของทุกภาคธุรกิจที่ร้อยละ 51 อย่างมีนัยสำคัญ ความมั่นใจนี้ค่อนข้างน่าประหลาดใจ เนื่องจากบริษัทในภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกจำนวนมากตระหนักว่ามีช่องว่างที่สำคัญในแผนงานด้านสภาพภูมิอากาศของตนในการที่จะบรรลุเป้าหมาย Net zero สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่าต่าง ๆ ผู้นำธุรกิจในภาคส่วนนี้ก็เชื่อมั่นอย่างมากในทีมงานด้านความยั่งยืนที่มีประสบการณ์ของพวกเขา รวมถึงความคืบหน้าของการดำเนินงานในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ในด้านความหลากหลายและการรวมเป็นหนึ่ง (Diversity and inclusion: D&I) กว่าครึ่ง (51 เปอร์เซ็นต์) ของซีอีโอภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกเชื่อว่าความคืบหน้าของงานด้าน D&I นั้นยังคงล่าช้าเกินไป สำหรับภาคธุรกิจที่เติบโตด้วยบุคลากรที่หลากหลายและมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างนวัตกรรมและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีอีกหลายสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อปลดล็อกศักยภาพของบุคลากรที่มีความครอบคลุมอย่างแท้จริง

"ซีอีโอในภาคสินค้าอุปโภคและค้าปลีกต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย ทั้งจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความซับซ้อนเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และการนำ Gen AI มาใช้งาน อย่างไรก็ตาม การผสานการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การลงทุนกับ Gen AI ในการขายและการตลาด และการให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ จะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จทางธุรกิจในอนาคต"


แท็ก ซีอีโอ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ