สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ สำนักงานปฏิบัติภาคใต้ ผนวกความร่วมมือหน่วยงานในพื้นที่พร้อมก้าวสู่ปี 2568 เดินหน้าแผนปฏิบัติการยกระดับด้านส่งเสริมอาชีพเกษตรกรให้เป็นมาตรฐานสากลกับโครงการด้านการสร้างอาชีพที่หลากหลายตอบสนองต่อความต้องการในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 4 โครงการหลัก
สถาบันปิดทองหลังพระฯ ได้มีการประชุมหารือแนวทางหลังน้ำท่วมกับคณะทำงานด้านส่งเสริมอาชีพฯ มีการประสานงานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อติดตามและให้คำแนะนำการแก้ไขปัญหาการปลูกทุเรียนกับเกษตรกรรายเดิมและรายใหม่ หลังจากช่วงน้ำลดจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ และยังคงรุกหน้าการดำเนินงาน โครงการทุเรียนคุณภาพชายแดนใต้ พร้อมวางแผนจัดอบรม การดูแลทุเรียนระยะดอก ในช่วงเดือน มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ 2568 และเร่งผลักดัน ยกระดับมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) เพื่อสร้างมาตรฐานของผลผลิตที่ดี มีคุณภาพที่ปลอดภัยต่อผู้ผลิตและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สถาบันปิดทองหลังพระและคณะทำงานด้านส่งเสริมอาชีพฯ ได้ร่วมสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยคั้นน้ำในการฟื้นฟูแปลงอ้อยหลังประสบปัญหาน้ำท่วมด้วยภูมิปัญญาองค์ความรู้ท้องถิ่นของเกษตรกร และปรับใช้ ทั้งหลักการ 'ระเบิดจากข้างใน' ที่เกษตรกรร่วมคิดร่วมทำ และ 'การพึ่งพาตนเอง' ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้ชุมชนสามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ทำให้สามารถฟื้นฟูแปลงอ้อยคั้นน้ำแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 89 ของพื้นที่ปลูกทั้งหมด พร้อมวางแผนการดำเนินงานผลักดันร่วมกับกลุ่มเกษตรกรยกระดับกลุ่มเกษตรกรบ้านจำปูน จังหวัดยะลา ให้เป็นต้นแบบกลุ่มเกษตรกรปลูกอ้อยคั้นน้ำและขยายผลองค์ความรู้สู่ชุมชนอื่นๆและสร้างความมั่นคงทางอาชีพต่อไป
อีกทั้งได้มีแผนงาน แตงโมบ้านโคกยามู ลุยแผนผลิตรับปีใหม่ ด้วยการวางกลยุทธ์การผลิตแตงโมแบบแยกโซน พื้นที่สูง 29 ไร่ และพื้นที่ลุ่ม 14 ไร่ เพื่อกระจายผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดในช่วงถือศีลอด ช่วง 'รอมฏอน' ของชาวมุสลิม และตั้งเป้าวางแผนเพาะต้นกล้าในกลุ่มพื้นที่สูงเพื่อให้ทันเก็บเกี่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีน
และในปี 2568 สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้ทำการประสานความร่วมมือศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวปัตตานี และสำนักงานเกษตรกรจังหวัดยะลา ประกาศจัดตั้ง โรงเรียนเกษตรกรบ้านจำปูน สู่พื้นที่ต้นแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาชาวนารุ่นใหม่ พร้อมคัดเลือกแปลงสาธิตจำนวน 2 ราย เป็นต้นแบบการเรียนรู้ โดยจะมีการเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2568 และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวปัตตานีพร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตครอบคลุมพื้นที่ 150 ไร่ ในปีงบประมาณ 2569 สำหรับเกษตรกรที่สนใจร่วมโครงการ จะได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว 7 สายพันธุ์ อัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ พร้อมปุ๋ยชีวภาพ PGPR-2 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อไร่ โดยจะเปิดรับสมัครในวันที่ 21 มกราคม 2568