นายชัยวัฒน์ รังษีภโนดร ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ กทม. กล่าวกรณีเกิดเหตุอาคารที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนย่านสำเพ็งพังถล่มว่า จากการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นของบริษัท ไชน่าทาวน์ เดสติเนชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด อยู่ระหว่างการรื้อถอนอาคาร 2 ชั้น บริเวณเวิ้งนาครเขษม ตามที่ยื่นแจ้งความประสงค์ตามมาตรา 39 ทวิกับสำนักการโยธา (สยน.) เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 โดยสาเหตุของการถล่มคาดว่า เกิดขึ้นระหว่างการรื้อถอนส่วนโครงสร้างชั้นที่ 2 เนื่องจากโครงสร้างอาคารมีอายุกว่า 50 ปี จึงเกิดการยุบตัวทำให้ชิ้นส่วนคอนกรีตกระทบกับโครงแผ่น Metal Sheet ซึ่งติดตั้งไว้เพื่อป้องกันอันตรายจากการรื้อถอน หลุดไปโดนหม้อแปลงไฟฟ้า จึงเกิดการลัดวงจรของกระแสไฟ เป็นประกายไฟขึ้นมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เบื้องต้นสำนักงานเขตฯ ได้ประสานสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการพังถล่มของอาคารอีกครั้ง พร้อมออกคำสั่งระงับการรื้อถอนแล้ว
นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ให้โครงการติดตั้งนั่งร้านป้องกันวัสดุจากการรื้อถอนและป้องกันเศษฝุ่น โดยด้านในเป็นแผ่นไม้อัดหนา 10 มิลลิเมตร ชั้นนอกเป็น mesh sheet ก่อนดำเนินการรื้อซากอาคารที่ถล่มลงมาในที่สาธารณะ พร้อมเก็บเศษวัสดุที่ถล่มลงและสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ ทั้งนี้ ได้กำชับให้โครงการเสนอมาตรการป้องกันอันตรายจากการรื้อถอนอาคารเพิ่มเติม รวมทั้งแผนงานการรื้อถอนในส่วนอื่น ๆ ที่ยังคงเหลือ ตลอดจนมาตรการป้องกันอันตรายจากการก่อสร้างและดัดแปลงอาคารที่จะต้องดำเนินการในระยะต่อไป เพื่อป้องกันผลกระทบกับประชาชน โดยจะเชิญสมาคมวิชาชีพเข้ามาร่วมให้คำแนะนำต่อไป