โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ (BANGKOK EYE HOSPITAL) มุ่งมั่นให้บริการและรักษาดูแลสุขภาพดวงตาครบทุกด้าน ด้วยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ผสานเทคโนโลยี AI ทันสมัยเข้ากับการให้บริการทางการแพทย์ ตามแนวคิด "SMART EYE HOSPITAL" ภายใต้การบริหารงานโดย "รองศาสตราจารย์นายแพทย์อนันต์ วงศ์ทองศรี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ ที่มีนโยบายยึดถือความปลอดภัยและมาตรฐานของกระบวนการการรักษาคนไข้มาเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเทคโนโลยี AI ที่ช่วยดูแลคนไข้ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ได้รับการรับรองจากสถาบัน AACI ประเทศสหรัฐอเมริกาให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางดวงตาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่ได้มาตรฐานการบริการทางการแพทย์ในระดับสากล
AACI (American Accreditation Commission International) เป็นระบบรับรองคุณภาพตาม มาตรฐานสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นมาตรฐานสากลหนึ่งเดียวในโลกที่รับรองได้ทั้ง INTERNATIONAL HEALTH CARE STANDARD และ ISO มีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพขององค์กรสถานประกอบการด้านสุขภาพ สถานที่ให้บริการ รวมทั้งด้านความปลอดภัยของผู้เข้าใช้บริการ การรักษาที่ถูกต้อง มีกระบวนการชัดเจน มาตรฐานห้องผ่าตัด เครื่องมือและบุคลากรทางการแพทย์ (แพทย์ พยาบาล พนักงาน ฯลฯ) ไปจนถึงส่วนของการให้บริการ ทั้งการให้คำแนะนำและคำปรึกษา การรักษา การจ่ายยา การดูแลหรือการติดตามผลหลังการรักษา ซึ่งมีขั้นตอนที่ถูกต้องและบริการอย่างเป็นมืออาชีพ
การบริการของโรงพยาบาลมีอะไรบ้าง?
โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ - ศูนย์เลสิก LASER VISION เป็นศูนย์รักษาสายตาแห่งแรกและแห่งเดียวของเอเชียที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน AACIเช่นกัน ให้บริการการผ่าตัดรักษาสายตาสั้น ยาว เอียง (LASIK) ทุกรูปแบบทั้งการผ่าตัดแบบแผลเล็กพลังงานต่ำระดับนาโนจูลย์ (NanoRelex) และการผ่าตัดแผลเล็กความเร็วสูง 8 วินาที (SMILE Pro) และยังมีบริการผ่าตัดรักษาภาวะต้อกระจกแบบไร้ใบมีด พลังงานต่ำ ทำให้ผู้เข้ารับบริการฟื้นคืนการมองเห็นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยจักษุแพทย์ในการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำยิ่งขึ้น รวดเร็วและใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยลง โดยมีผู้เข้ารับการรักษามาแล้วกว่า 100,000 ตา
มีแนวทางบริหารจัดการโรงพยาบาลไว้อย่างไรบ้าง?
คนไข้ที่เข้ารับการรักษามีความหลากหลาย ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 1 ขวบ - 50 ปี โรคทางตาก็มากขึ้น จากแต่ก่อนมีจักษุแพทย์ 5 - 6 ท่าน ปัจจุบันมีจักษุแพทย์กว่า 40 ท่าน และทุกสเปเชียลลิสต์ การบริหารจัดการทางด้านการแพทย์มีความซับซ้อนมากขึ้น ตั้งแต่คัดเลือกแพทย์ที่มีคุณวุฒิ มีประสบการณ์ในการรักษา ด้านของบุคลากรทางแพทย์อื่นๆ แพทย์เทคนิเชียน พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยแพทย์ ทีมดูแลผู้รับบริการ ต้องเป็นทีมเวิร์ค มีคุณภาพ ประสบการณ์ ฝ่ายแบคอัพอย่าง ผู้ช่วยเภสัชกร การเงิน ก็มีความสำคัญ รวมทั้งการบริการที่ดีจากพนักงาน เพื่อดูแลคนไข้ให้ได้รับการบริการที่ดียิ่งขึ้น โดยรพ.จักษุกรุงเทพมีความมุ่งมั่นจะพัฒนาคุณภาพการให้บริการ และรักษามาตรฐานการดูแลรักษาผู้ป่วยให้ดีที่สุด ครอบคลุมทุกปัญหาดวงตา และมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยี และเทคนิคการรักษาดวงตาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำวิสัยทัศน์เพื่อก้าวไปสู่อันดับ 1 ของโรงพยาบาลเฉพาะทางตาแบบครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)
วางเป้าหมายของปี 2568 กับเทคโนโลยีใหม่ๆไว้อย่างไรบ้าง?
ในปีหน้ามุ่งเสริมทีมแพทย์เฉพาะทางด้านดวงตาที่มีประสบการณ์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการรักษามากขึ้น โดยวางแผนใช้งบประมาณ 30 - 40 ล้านบาท ซื้ออุปกรณ์การตรวจรักษาและเครื่องเลเซอร์ที่ทันสมัยที่สุดในไทย เข้ามาเสริมเพิ่มอีก ส่วนเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็จะมีเพิ่มการเจาะเลือดตรวจพันธุกรรม ไม่เฉพาะโรคด้านตาอย่างเดียว อาจเป็นโรคที่เกี่ยวข้องมาทางตา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน เพราะว่าเป็นโรคที่สะท้อนมาที่ดวงตาได้ เริ่มในปี 2568 นี้
อยากให้อาจารย์แนะนำโรคตาของคนไทย ไม่ควรมองข้าม อย่างที่พูดถึง เบาหวาน ความดัน ส่งผลกระทบไปที่ตา อยากให้ช่วยแนะนำหน่อยจะได้เฝ้าระวังกัน
โดยเฉพาะผู้สูงอายุต้องระวังมากๆ คือ โรคต้อหิน บางครั้งตัวเองอาจไม่ค่อยรู้ตัวว่าเริ่มเป็น เมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจตาประจำปี เพราะโรคต้อกระจก เป็นโรคที่รักษาง่าย แล้วรักษาแล้วหายขาด มองเห็นใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน สายตาก็จะค่อยๆ มัวลงๆ การใช้ชีวิตอาจเกิดอุบัติเหตุได้ โรคที่2 ที่อยากจะพูดถึงคือ เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคเบาหวานเยอะ พอรู้ว่าเป็นเบาหวานแพทย์ก็จะส่งให้จักษุแพทย์ช่วยดูแล ควรต้องดูแลดวงตาด้วยนะครับ โรคเบาหวาน ถ้าป้องกันรักษาเนิ่นๆ ถ้าคุมเบาหวานได้ดีดวงตาก็จะมีปัญหาน้อย ถ้าคุมไม่ดีแล้วตาเริ่มมีปัญหาก็มีวิธีรักษา อาจจะเริ่มต้นด้วยการยิงเลเซอร์ สกัดความผันผวนของเส้นเลือดก่อน ถ้าไม่เส้นเลือดดีๆอาจเกิดเลือดออกในตาถ้ามีเลือดออกในตาแล้วไม่รุนแรง ก็ยังสามารถที่จะผ่าตัดโดยจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านจอประสาทตา รักษาเลือดที่ออกอยู่ในตาก็กลับมามองเห็นได้ ถ้ารุนแรงจนเป็นพังผืด และดึงให้จอประสาทมันเริ่มเสียหายจะรักษายากขึ้น
เรื่องของการตรวจตาควรให้ความสำคัญเรื่องการตรวจสุขภาพดวงตาอย่างไรบ้าง?
สำคัญครับ ปัจจุบันทุกหน่วยงาน หรือประกันสังคม ให้ความสำคัญในเรื่องการตรวจสุขภาพดวงตา อย่างประกันสังคม มีให้ตรวจตาฟรี ควรตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยที่สุดอายุ 40 ปีขึ้น ควรตรวจปีละ 1 ครั้งดีที่สุด เพราะโรคต้อหินเริ่มมา ต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อมเริ่มมา ในวัย 40 สายตาเริ่มผิดปกติ หลังจากตรวจประจำปีแล้ว ถ้าจักษุแพทย์ เห็นอะไรผิดปกติก็จะรักษาได้ไว ถ้ามีการเช็คบ่อยๆ การรักษาก็จะง่ายขึ้นด้วย