กรุงเทพฯ 7 มกราคม 2568 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้านโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส" ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อัพสกิลเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ประเมินความพร้อมอุตสาหกรรมของประเทศ พัฒนาทักษะในการวิเคราะห์และประเมินความพร้อมของสถานประกอบการ รวมถึงการนำทักษะความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนการพัฒนาสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้ประกอบการยกระดับสู่อุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืนต่อยอดส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการยกระดับสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่อย่างยั่งยืนและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก
นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในปัจจุบันกฎกติกาการค้าโลก รวมไปถึงข้อกีดกันการค้าต่าง ๆ และมาตรฐานด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เข้มงวด ตลอดจนความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การค้าในตลาดโลกเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรง ผู้ประกอบการที่อยู่รอดได้และเป็นผู้ชนะในเกมนี้จะต้องมีเทคโนโลยี และนวัตกรรมการผลิตชั้นสูง มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และมีวัสดุเหลือทิ้งหรือขยะออกสู่สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สอดรับกับนโยบาย กระทรวงอุตสาหกรรม ตามนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส" ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินหน้าปฏิรูปอุตสาหกรรม โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและบิ๊กดาต้าประสานเข้ากับเทคโนโลยีเอไอ เพื่อปรับปรุงระบบการผลิตสามารถลดต้นทุนลงให้ได้มากที่สุด รวมทั้งสามารถพยากรณ์ทิศทางความต้องการของตลาดและแนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต โดยได้มอบหมาย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและแข่งขันในโลกยุคปัจจุบันได้ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ และการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลมาใช้ในการกำหนดทิศทางในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
อย่างไรก็ตาม การจะยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มจากการประเมินความพร้อมของธุรกิจตัวเองอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร การลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือการพัฒนาทักษะของบุคลากรให้ตอบโจทย์อนาคต นอกจากนี้ การทราบถึงระดับความพร้อมขององค์กรในปัจจุบันยังช่วยลดความเสี่ยงในการเผชิญกับความล้มเหลว และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง องค์กรที่สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจจะมีความได้เปรียบ และสามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสุรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ภายใต้การนำของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ขานรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และมีบทบาทในการสนับสนุนและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เล็งเห็นความสำคัญของการประเมินความพร้อมอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมด้วยดิจิทัลและเป็นมาตรฐานกลางของประเทศในการชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย ผ่านการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการหลักสูตร "การใช้งาน Thailand i4.0 CheckUp" ภายใต้โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจไทยด้วยดิจิทัล เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้รับความรู้ความเข้าใจในการประเมินความพร้อมอุตสาหกรรมของประเทศไทย สามารถพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์และประเมินความพร้อมของสถานประกอบการ รวมถึงการนำทักษะความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนการพัฒนาสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้ประกอบการยกระดับสู่อุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ สำหรับหัวข้อหลักในหลักสูตรดังกล่าว ประกอบด้วย 1) ความหมายและความสำคัญของภาคอุตสาหกรรม 2) ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรม และ Industry Maturity Index ของประเทศไทย และ 3) นิยามและความหมายของมิติย่อย 1 - 17 ในระดับความพร้อม 1 ถึง 6 เพื่อทราบถึงคุณลักษณะของสถานประกอบการในระดับความพร้อมต่าง ๆ
"ในการสัมมนาฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่เจ้าหน้าที่ดีพร้อมให้มีความรู้ความเข้าใจในการประเมินความพร้อมอุตสาหกรรมของประเทศไทย สามารถพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์และประเมินความพร้อมของสถานประกอบการ รวมถึงการนำทักษะความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนการพัฒนาสถานประกอบการสู่อุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป" นายสุรพล กล่าวทิ้งท้าย