กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ก้าวขึ้นระดับ AA ในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน จากการจัดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่ง KKP ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 80 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการยอมรับในระดับ AA และยังคงสถานะหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแสดงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างสมดุลและยั่งยืน
นอกจากนั้น ความโปร่งใสของ KKP ยังได้รับการยอมรับในระดับประเทศ โดยได้รับรางวัล Sustainability Disclosure Award ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 จากการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนที่โปร่งใสและเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียอีกด้วย
นางสาวพัทนัย เหลืองตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสำนักสื่อสารองค์กรและการตลาด กล่าวว่าการขึ้นสู่ระดับ AA คือผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นต่อเนื่องขององค์กร ในการบูรณาการความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์องค์กร ภายใต้เจตนารมณ์ 'มุ่งมั่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน' โดยพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรมและธรรมาภิบาลที่เป็นไปเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก ภายใต้ 3 มิติ ESG ดังนี้
KKP ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว โดยมีโครงการสำคัญที่ตอบโจทย์เป้าหมายนี้ เช่น การรีโนเวทสำนักงานใหญ่ KKP Tower ให้เป็นอาคารสีเขียวตามมาตรฐาน LEED ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทย และโครงการ KKP Shaping Tomorrow สนับสนุนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน โดยสนับสนุนสินเชื่อแก่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นถึง 45% ในปี 2566 และจะยังคงตั้งเป้าที่จะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อไป
เพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความยั่งยืนในระยะยาว KKP ได้วางกรอบการทำงานอย่างเข้มงวดและชัดเจน เช่น ESG Lending Policy หรือนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และจรรยาบรรณคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) เพื่อให้คู่ค้าปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลที่สอดคล้องกับแนวทางของ KKP
ทั้งนี้ การประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความสามารถขององค์กรไทยในการพัฒนาธุรกิจที่สมดุลระหว่างผลกำไรและความรับผิดชอบต่อโลก โดยการยกระดับก้าวขึ้นสู่ระดับ AA ครั้งนี้ได้ทำให้ KKP เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างมาตรฐานให้กับการดำเนินธุรกิจในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับ ESG และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในฐานะความจำเป็นสำหรับอนาคต
"ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่เป็นเส้นทางที่เราต้องเดินด้วยความตั้งใจและความรับผิดชอบ KKP พร้อมเดินหน้าสู่ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน สู่การพัฒนาที่ก้าวไกลและยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว ทั้งต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจไทย" นางสาวพัทนัยกล่าว