'ปุณศิรา เธียรวร' บุกเบิกแอปฯ สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ตรวจคัดกรองโรคกระดูกสันหลังคด หวังช่วยผู้ป่วยกว่า 1-2 ล้านคนทั่วประเทศ

ข่าวทั่วไป Friday January 10, 2025 15:09 —ThaiPR.net

'ปุณศิรา เธียรวร' บุกเบิกแอปฯ สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ตรวจคัดกรองโรคกระดูกสันหลังคด หวังช่วยผู้ป่วยกว่า 1-2 ล้านคนทั่วประเทศ

ปุณศิรา (เอฎา) เธียรวร นักเรียนไทยจากโรงเรียนโชต โรสแมรี่ ฮอลล์ (Choate Rosemary Hall) รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมกลับมาจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เรื่องสุขภาพที่สำคัญแก่เยาวชนไทย โดยเอฎาได้นำทีมจัดกิจกรรมให้ความรู้ถึง 9 โรงเรียนทั่วกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมนักเรียนกว่า 900 คน พร้อมแนะนำแอปพลิเคชัน "สโคลิโอบัดดี้" (ScolioBuddy) ที่ให้บริการฟรี

เนื่องจากในต้นปี พ.ศ. 2568 เอฎาได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการ CRC Coalition Thailand ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมและดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNCRC) เอฎาได้รับแรงบันดาลใจจากหลักการของ UNCRC ที่ระบุว่าเด็กและเยาวชนทุกคนควรได้รับการพิจารณาเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุดเป็นลำดับแรก นอกจากที่เอฎาสอน "เกมการยินยอม" ให้กับเด็กประมาณ 700 คนใน 7 โรงเรียน ซึ่งส่งเสริมความปลอดภัยทางกายและใจของเด็กผ่านการเล่นเกมเน้นให้คิดวิเคราะห์ สังเกตแล้ว เอฎายังได้เป็นผู้นำในการจัดการอบรมแนะนำแอปพลิเคชัน ScolioBuddy และสอนท่าออกกำลังกายสำหรับหลัง เพื่อสนับสนุนสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเด็กใน 9 โรงเรียนอีกด้วย

จากข้อมูลของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า โรคกระดูกสันหลังคดพบได้ถึงร้อยละ 2-3 ของประชากรไทย แต่ผู้ป่วยจำนวนมากยังไม่ได้รับการวินิจฉัย แอปพลิเคชันนวัตกรรมใหม่นี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น พร้อมทั้งติดตามและจัดการอาการของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง มีนักกายภาพบำบัดร่วมสาธิตการตรวจกระดูกสันหลังด้วยแอปพลิเคชัน พร้อมแนะนำท่าออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง "เป้าหมายของเราคือการสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้าง โดยหวังว่านักเรียนจะนำความรู้เหล่านี้ไปแบ่งปันกับครอบครัว เพื่อน และชุมชนของพวกเขา" เอฎากล่าว

จากโรงพยาบาลศิริราชสู่โรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ

แอปฯ 'สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ' สร้างปรากฏการณ์ใหม่วงการแพทย์ไทย

ความสำเร็จของแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) เริ่มต้นจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันรณรงค์ให้ความรู้เรื่องโรคกระดูกสันหลังคดโลก ในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ศิริราช เอช โซลูชันส์ ภายในไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ งานนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโรคกระดูกสันหลังคด โดยมีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง นักกายภาพบำบัด และบุคลากรทางการศึกษาจากทั่วประเทศเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอคุณสมบัติของแอปพลิเคชัน ในงานดังกล่าว เอฎาได้สาธิตความสามารถของแอปพลิเคชันในการวัดความโค้งของกระดูกสันหลังและการติดตามการเปลี่ยนแปลงอาการตามระยะเวลาต่างๆ ที่ต้องการจะบันทึก นอกจากนี้ยังมีนักเรียนและครูจากโรงเรียนวัดสุวรรณและโรงเรียนวัดอินทารามเข้าร่วมงานหลายร้อยคน ซึ่งทุกคนได้ทั้งความสนุกและความรู้จากกิจกรรม

จากความสำเร็จดังกล่าว เอฎาได้ขยายการเข้าถึงแอปพลิเคชันไปยังโรงเรียนต่างๆ สร้างความหวังให้ทั้งนักเรียน ผู้ปกครองและครู "เป้าหมายของเราคือการทำให้การดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันได้ในชีวิตประจำวัน" เธอกล่าว "การตรวจพบแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด และจะช่วยรักษาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ ด้วยแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ จะเสริมพลังให้เยาวชนและผู้สนใจทุกคนได้ดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังได้ด้วยตนเอง"

เอฎาบุกตามโรงเรียน มอบความรู้ และเครื่องมือสู้โรคกระดูกสันหลังคด

ในช่วงปิดเทอม เอฎาได้ใช้โอกาสที่อยู่ในไทยนี้ เยี่ยมโรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลังคด

ที่โรงเรียนวัดบุคคโลและโรงเรียนวัดมงคลวราราม เอฎาได้สื่อสารกับนักเรียนด้วยข้อความที่ทรงพลัง: โรคกระดูกสันหลังคดมักเริ่มต้นโดยไม่มีใครสังเกตเห็น แต่การสังเกตและตระหนักรู้แต่เนิ่นๆ สามารถสร้างความแตกต่างได้มาก "เอฎาต้องการให้แม้แต่นักเรียนที่อายุน้อยที่สุดเข้าใจถึงความสำคัญของการยืน เดิน นั่ง ด้วยท่าทางที่ถูกต้อง และการเฝ้าระวังกระดูกสันหลังของตนเอง โดยมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการดำเนินการแต่เนิ่นๆ" เอฎากล่าว

ที่โรงเรียนวัดนาคนิมิตร การนำเสนอมุ่งเน้นไปที่การป้องกัน นักเรียนได้ฝึกท่าออกกำลังกายตามคำแนะนำของแอปพลิเคชัน เรียนรู้เทคนิคการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกสันหลัง "นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการตรวจพบ แต่เป็นการเสริมพลังให้นักเรียนจัดการสุขภาพของตนเองอย่างกระตือรือร้น" เอฎาอธิบาย

ที่โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคมและโรงเรียนวัดไทร เธอได้พูดคุยกับนักเรียนชั้น ม.1-6 ถึงความสำคัญของการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ และการติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ "วัยรุ่นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับโรคกระดูกสันหลังคด เพราะเป็นช่วงที่อาการของโรคอาจพัฒนาได้มากที่สุด" เอฎาอธิบาย "ยิ่งเริ่มเฝ้าระวังและดูแลอาการได้ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งดีขึ้น นี่คือเหตุผลที่เอฎามุ่งมั่นที่จะทำให้แอปพลิเคชันนี้เข้าถึงได้สำหรับทุกคน"

ประสบการณ์ส่วนตัวของเอฎากับโรคกระดูกสันหลังคดผลักดันให้เธอมุ่งมั่นทำให้การดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังเข้าถึงได้มากขึ้น "ดิฉันเข้าใจความรู้สึกท้อแท้กังวลของการไม่มีเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจและจัดการอาการตั้งแต่แรก" เธอเล่าระหว่างเยี่ยมโรงเรียน "สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)" ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมช่องว่างนี้ ทำให้ทุกคนเข้าถึงความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะมีฐานะทางการเงิน หรือ พื้นฐานครอบครัวแบบใดก็ตาม"

ลดช่องว่างของการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพ 'สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)' สร้างความเท่าเทียมกันในระบบสาธารณสุข

นอกจากการให้ความรู้ ภารกิจของเอฎายังมุ่งแก้ไขอุปสรรคในการเข้าถึงบริการสุขภาพ

ที่โรงเรียนวัดประเสริฐสุทธาวาสและโรงเรียนแจงร้อนวิทยา การนำเสนอของเอฎาเน้นถึงผลกระทบของโรคกระดูกสันหลังคดต่อสังคม โดยชี้ให้เห็นความท้าทายที่ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยต้องเผชิญในการเข้าถึงการรักษาปัญหากระดูกสันหลัง

"การให้บริการแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นการให้คำมั่นสัญญาเรื่องความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการสุขภาพ" เอฎากล่าว นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังรองรับหลายภาษา สะท้อนถึงความตั้งใจของเอฎาที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เอฎาพาแอปฯ 'สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)' ขยายโอกาสสู่เด็กพิเศษ ที่งานวิ่งการกุศล Run Together for Autism

เอฎาได้รับเชิญให้นำแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)เข้าไปแนะนำ และตรวจวัดสุขภาพหลังผู้มาร่วมงานรวมทั้งเด็กพิเศษในงานวิ่งการกุศล Run Together for Autism ที่จัดโดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ Beyond the Spectrum ซึ่งเป็นงานเพื่อส่งเสริมการยอมรับและเข้าใจบุคคลที่มีอาการออทิสติก งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง โดยมีเด็กออทิสติกและครอบครัว และมีผู้สนใจมากมาย มาร่วมงานนับพันคน

ในการนำเสนอ เอฎาได้แนะนำความสามารถของแอปพลิเคชันแก่ผู้เข้าร่วมงาน เน้นย้ำว่าฟีเจอร์ต่างๆ สามารถช่วยให้ทุกคนดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงการเข้าถึงที่ง่ายดาย โดยแอปพลิเคชันรองรับ 6 ภาษาและให้บริการฟรี

"สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)เป็นมากกว่าแค่แอปพลิเคชัน แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทุกคนควบคุมดูแลสุขภาพของตัวเองได้" เอฎาอธิบายระหว่างการนำเสนอ "ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีกับการศึกษา เรากำลังทำลายกำแพงที่ขวางกั้นการเข้าถึงการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคด และทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะมาจากพื้นฐานครอบครัว หรือฐานะทางการเงินแบบใดก็ตาม"

ผู้เข้าร่วมงานต่างชื่นชมศักยภาพของแอปพลิเคชัน โดยผู้ปกครองท่านหนึ่งกล่าวว่า "นี่คือนวัตกรรมที่เราต้องการในยุคสมัยนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยลดช่องว่างในสังคมในการเข้าถึงอุปกรณ์ตรวจสุขภาพและเสริมพลังให้ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ แม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม"

เสียงตอบรับท่วมท้น นักเรียน-ครูชื่นชมแอปฯ 'สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)'

มีเสียงชื่นชมจากครูและนักเรียนท่วมท้น หลายคนแสดงความตื่นเต้นที่จะสามารถดูแลสุขภาพได้ด้วยตนเองในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย ด้านคณะครูก็แสดงความชื่นชมถึงศักยภาพของแอปพลิเคชันในการสอนให้นักเรียนดูแลตัวเองและทำให้ตรวจพบอาการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และครู และพยาบาลประจำโรงเรียนยังสามารถจดบันทึกค่าความคดของเด็กๆ ได้หลายคนจากโทรศัพท์เครื่องเดียว

"ดิฉันเห็นว่าแอปพลิเคชันนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตนักเรียนหลายคนที่อาจไม่มีโอกาสเข้าถึงการดูแลสุขภาพ" ครูท่านหนึ่งจากโรงเรียนวัดมงคลวรารามกล่าว "การที่มันใช้งานได้ฟรีและใช้งานได้หลายภาษา เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก เพราะทำให้คนหลายชาติหลายภาษา สามารถใช้แอปฯนี้ได้จากที่ต่างๆทั่วทุกมุมโลก"

เอฎาแสดงความขอบคุณต่อโอกาสที่โรงเรียนต่างๆจัดให้ได้พบปะกับนักเรียนจำนวนมาก "เอฎารู้สึกซาบซึ้งใจมากที่โรงเรียนต่างๆ เปิดโอกาสให้ได้พูดคุยกับนักเรียน นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเอฎาตั้งตารอที่จะเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้และมอบเครื่องมือสำหรับการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคดต่อไป"

สองพี่น้องร่วมพัฒนานวัตกรรมการแพทย์ 'น้องทัท' สร้างอุปกรณ์เสริมด้วยเทคโนโลยี 3D

หนึ่งในความพิเศษของโครงการนี้คือการมีส่วนร่วมของ ชญตว์ (ทัท) เธียรวร น้องชายของเอฎา ที่ได้ออกแบบและผลิตที่จับโทรศัพท์พิเศษด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อนำมาใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน ในวัยเพียง 11 ปีในขณะนั้น นวัตกรรมที่น้องทัทคิดค้นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปฯ วัดความโค้งของกระดูกสันหลังได้อย่างแม่นยำขึ้น

"ความทุ่มเทและพรสวรรค์ของน้องทัทมีส่วนสำคัญมาก ในการทำให้แอปฯนี้ ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น" เอฎากล่าวถึงผลงานของน้องชายด้วยความภาคภูมิใจ "การมีส่วนร่วมของน้องทัทในโครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า เยาวชนไทยแม้จะอายุยังน้อยนิด ก็สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีความหมายและสร้างผลกระทบที่แท้จริงได้"

ขยายขอบเขตสู่อาเซียน แอปฯ 'สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)' เข้าถึงทุกกลุ่มวัย จากโรงเรียนสู่วัด

การนำแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) เข้าสู่โรงเรียนต่างๆ ของเอฎาเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจใหญ่ที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลังคดให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปัจจุบัน โรงพยาบาลศิริราชได้นำแอปพลิเคชันนี้ไปใช้แล้ว และกำลังจะมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับโรคกระดูกสันหลังคดทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

ที่น่าสนใจคือ แอปพลิเคชันนี้ยังถูกนำไปใช้ในวัดที่จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม โดยผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุที่ต้องนั่งพับเพียบเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้กระดูกสันหลังโค้งไปด้านใดด้านหนึ่ง การสร้างความตระหนักรู้ในกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน

การที่ทั้งโรงพยาบาลศิริราชและวัดต่างๆ นำแอปพลิเคชันไปใช้ สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายในการใช้งาน จากวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม แอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนในทุกช่วงวัย

ปิดท้ายความสำเร็จ 'สโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy)' จุดประกายการเปลี่ยนแปลงวงการแพทย์ไทย

เมื่อการเดินสายให้ความรู้ตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศของเอฎาในช่วงปิดเทอมรอบนี้ใกล้สิ้นสุดลง เราเห็นผลกระทบในทางที่ดีได้ชัดเจน และเห็นพลังบวกเกิดขึ้นมากมาย นักเรียน ผู้ปกครอง คุณครู และบุคคลทุกวัยที่ได้ลองใช้แอปพลิเคชัน รู้สึกมีพลังในการดูแลสุขภาพของตนเองและชื่นชอบการเข้าถึงที่ง่ายดายของแอปพลิเคชัน และชุมชนเริ่มมองการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคดในมุมมองใหม่

"ผลตอบรับที่ดีมากจากโรงเรียนต่างๆ สร้างกำลังใจให้เอฎามาก" เอฎากล่าว "เอฎามุ่งมั่นมากขึ้นที่จะผลักดันต่อไป เพื่อให้การดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังคดเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะมีพื้นฐานครอบครัวหรือฐานะทางการเงินอย่างไร"

ด้วยความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และความทุ่มเทอย่างไม่ย่อท้อ เอฎาไม่เพียงสร้างความตระหนักรู้ แต่ยังเป็นตัวอย่างอันทรงพลังที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีและการศึกษาสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อย่างไร แอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) พร้อมคุณสมบัติที่ล้ำสมัยและการเข้าถึงที่ง่ายดาย เป็นประจักษ์พยานถึงวิสัยทัศน์ของเธอ - ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองกระดูกสันหลังคดแต่เนิ่นๆ และสามารถจัดการโรคกระดูกสันหลังคดอย่างมีประสิทธิภาพได้

ผู้สนใจ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสโคลิโอบัดดี้ (ScolioBuddy) ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android เพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ