บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ได้รับเลือกเป็นประธานร่วมในสภาธุรกิจของ Grow Asia ร่วมกับวีซ่า โดยจะนำความเชี่ยวชาญด้านเกษตรและอาหารกว่า 78 ปี มาขับเคลื่อนภารกิจ Grow Asia ในการสนับสนุนภาคการเกษตรและอาหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เติบโตและปรับตัวรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน
Grow Asia ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 โดย World Economic Forum และอาเซียน เพื่อส่งเสริมระบบอาหารยั่งยืนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ Grow Asia ประกอบด้วยสภาธุรกิจ และสภาที่ปรึกษาพันธมิตร ที่ทำงานประสานกันในการรับมือความท้าทายด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อมของภูมิภาค เชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมกว่า 700 องค์กร ปัจจุบัน Grow Asia เข้าถึงเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนกว่า 3.4 ล้านราย เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างมูลค่าเพิ่มในห่วงโซ่อุปทานให้แก่เกษตรกรได้กว่า 2,800 ล้านบาทต่อปี
การประกาศแต่งตั้งไทยวาเป็นประธานร่วมในสภาธุรกิจ Grow Asia เกิดขึ้นหลังจากการลงมติของสมาชิกในการประชุมประจำปีที่สิงคโปร์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดย เบเวอร์ลีย์ โพสต์มา ผู้อำนวยการบริหาร Grow Asia กล่าวว่า "เรายินดีที่ไทยวาได้เป็นประธานร่วมในสภาธุรกิจ เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเกษตรยั่งยืนของภูมิภาค จึงเป็นพันธมิตรสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนที่ยั่งยืน นวัตกรรม และการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้ปรับตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างระบบอาหารที่มั่นคงในระยะยาว"
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยวา กล่าวว่า "เรายินดีที่ได้รับเกียรติให้เป็นประธานร่วมของสภาธุรกิจ Grow Asia เพราะความร่วมมือและนวัตกรรมคือกุญแจสำคัญในการสร้างระบบอาหารที่มั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราคือ "Creating Innovation and Sustainability from Farm to Shelf" ไทยวาพร้อมร่วมมือกับ Grow Asia และวีซ่า รวมทั้งพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมความรู้และนวัตกรรมที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกรรายย่อยและชุมชนในภูมิภาคนี้"
นอกจากไทยวาจะเป็นประธานร่วมในสภาธุรกิจแล้ว ยังเป็นพันธมิตรของ Grow Asia ในกองทุน GrowVentures เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมด้านเกษตรและอาหาร นับจากนี้ ไทยวาจะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 78 ปี ในด้านเกษตรกรรมยั่งยืน มาพัฒนากลยุทธ์ที่ตอบโจทย์แต่ละพื้นที่ ผลักดันนโยบายและการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรรายย่อย และสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้