นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อร้องเรียนประชาชนให้อาหารนกในพื้นที่สาธารณะ ทำให้มีกลิ่นเหม็นรบกวน สร้างความเดือดร้อนให้ผู้พักอาศัยบริเวณพื้นที่เขตห้วยขวางว่า สนอ. ได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุกร่วมกับสำนักงานเขตในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เชิงรุก เพื่อเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในนกพิราบตามแผนงานประจำเดือน ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบโรคไข้หวัดนกจากสัตว์ปีกในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งได้จัดทำแนวทางการดำเนินการเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัตว์ปีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ดำเนินการประชุมร่วมกับฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลทั้ง 50 เขต เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัตว์ปีกเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจัดทำสื่อประสัมพันธ์เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ในรูปแบบภาพ Infographic ให้ความรู้ประชาชน เพื่อป้องกันโรคจากนกพิราบและสัตว์ปีก จัดทำคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์รณรงค์ห้ามให้อาหารนกพิราบในที่สาธารณะ เนื่องจากเป็นพาหะนำโรคติดต่อสัตว์สู่คน วิธีป้องกันตนเองจากโรคที่มาจากนกพิราบและสัตว์ปีก รวมทั้งสำรวจพื้นที่ที่พบนกพิราบจำนวนมาก เพื่อจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามให้อาหารนกพิราบในที่สาธารณะ เนื่องจากเป็นพาหะนำโรคฯ และผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เพื่อประชาสัมพันธ์ในจุดที่มีนกพิราบอาศัยอยู่จำนวนมาก พร้อมทำความเข้าใจกับผู้นำอาหารมาให้นกพิราบในที่สาธารณะตระหนักถึงอันตรายจากเชื้อโรคและเหตุเดือดร้อนรำคาญที่มาจากนกพิราบต่อไป
นายสมบัติ เครือกีรติธรรม ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้เคยออกคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข เมื่อปี 2561 แล้ว แต่พบว่า บุคคลดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฯ จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) สุทธิสารดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งศาลแขวงพระนครเหนือได้พิพากษาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 62 ให้ลงโทษจำคุก 1 เดือน และปรับ 2,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ได้ตรวจสอบสถานที่และสอบถามผู้พักอาศัยข้างเคียง 5 หลังคาเรือน เมื่อวันที่ 12, 19 และ 22 พ.ค. 66 พบว่าทุกหลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการให้อาหารแก่นกพิราบ เจ้าหน้าที่จึงออกแบบตรวจแนะนำตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ให้ปรับปรุงแก้ไข พร้อมประสาน สนอ. สุ่มตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกในนกพิราบและให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขอนามัย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 66 และ 8 ต.ค. 67 ผลการสุ่มตรวจไม่พบการติดเชื้อไข้หวัดนก ขณะเดียวกันได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า บริเวณโดยรอบบ้านหลังดังกล่าวมีนกพิราบเกาะอยู่บนหลังคาบ้านและสายไฟ ก่อให้เกิดมูลนกเลอะเทอะ สกปรก ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนประชาชนที่พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง จึงออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ลงวันที่ 10 ม.ค. 67 ให้บุคคลดังกล่าวแก้ไขระงับเหตุรำคาญตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขต่อไป