นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการรื้อถอนอาคารดิเอทัสตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดว่า สำนักงานเขตปทุมวัน สนย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาติดปัญหาอุปสรรคเรื่องการประวิงเวลาการส่งมอบพื้นที่ของเจ้าของอาคาร และขั้นตอนการเข้ารื้อถอนอาคารอาจทำให้ทรัพย์สินส่วนอื่นได้รับความเสียหาย เนื่องจากเจ้าของอาคารไม่ดำเนินการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินออกจากตัวอาคาร รวมถึงการหาตัวผู้รับเหมาดำเนินการรื้อถอนอาคาร ซึ่งปัจจุบันได้บริษัท ทำเลไทย ธรรมชาติ จำกัด เป็นผู้รับเหมารื้อถอนอาคารดิเอทัส ตามสัญญาจ้างก่อสร้าง (รื้อถอน) เลขที่ 19/2563 ลงวันที่ 22 ก.ย. 63 โดยขั้นตอนการเข้าพื้นที่ของสำนักงานเขตฯ และผู้รับเหมารื้อถอนอาคาร ได้พบตัวแทนเจ้าของอาคาร และสำนักงานเขตฯ ได้กั้นเขตการรื้อถอน พร้อมแจ้งเจ้าของอาคารดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งปัจจุบันสำนักงานเขตฯ และผู้รับเหมารื้อถอนอาคารได้เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีทรัพย์สินการรื้อถอนและขนย้ายทั้ง 2 อาคาร โดยแจ้งให้เจ้าของอาคารทราบแล้ว เพื่อดำเนินการขั้นตอนการรื้อถอนต่อไป
ทั้งนี้ สนย. ได้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบและอนุญาตก่อสร้างก่อสร้างอาคาร อาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยขึ้นทะเบียนถนนและซอยต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลตรวจสอบความกว้างของเขตทาง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตก่อสร้างอาคาร อาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่พิเศษตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเคร่งครัดตรวจสอบอาคารที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างถูกต้องตามแบบที่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันกรณีอาคารก่อสร้างไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายอิทธิพล อิงประสาร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยใช้อำนาจตามมาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 42 และมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ดำเนินการกับบริษัท ลาภประทาน จำกัด และบริษัท ทับทิมทร จำกัด ซึ่งปัจจุบันสำนักงานเขตฯ และบริษัท ทำเลไทย ธรรมชาติ จำกัด ได้เข้าพื้นที่อาคารดังกล่าว เพื่อตรวจสอบรายการบัญชีทรัพย์สินของอาคาร และทำหนังสือแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินอาคารทั้งสองอาคาร เพื่อให้ทั้งสองบริษัทฯ ตรวจสอบรายการบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวภายใน 30 วัน และส่งมอบพื้นที่ให้สำนักงานเขตฯ นำส่งต่อให้บริษัท ทำเลไทย ธรรมชาติ จำกัด เข้ารื้อถอนอาคารให้เป็นไปตามกระบวนการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดต่อไป ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ให้สำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครองทราบอย่างต่อเนื่อง