อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) ประกาศเปิดตัว 12 พื้นที่ทำงานใหม่ทั่วประเทศ ตอบรับความต้องการพื้นที่ทำงานแบบไฮบริดที่เพิ่มขึ้น

ข่าวทั่วไป Friday February 7, 2025 10:32 —ThaiPR.net

  • พื้นที่ทำงานใหม่ 12 แห่งใน 2 เมือง กำลังพร้อมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการภายใต้แบรนด์ชั้นนำต่างๆ ของ IWG ในประเทศไทยในปีนี้
  • พื้นที่ทำงานเหล่านี้คือศูนย์การทำงานระดับพรีเมียมของ IWG ที่ครบครันด้วย co-working space สำนักงานส่วนตัว ห้องประชุม และพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ (creative space)
  • ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ IWG ในการมอบสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมในหลากหลายทำเล เมื่อการทำงานแบบไฮบริดกำลังกลายเป็นมาตรฐานการทำงานสำหรับคนทำงานเพิ่มมากขึ้น
  • ด้วยความหลากหลายของสถานที่ตั้ง ทั้งในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และพื้นที่เขตชานเมืองIWG เตรียมเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ Spaces, Regus และ HQ ในประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่

อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) ผู้ให้บริการโซลูชันการทำงานแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายใต้แบรนด์ Spaces, Regus และ HQ พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายพื้นที่ทำงานในประเทศไทย โดยเตรียมเปิดตัว 12 แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา และระยอง พื้นที่ทำงานเหล่านี้มีกำหนดเปิดให้บริการเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 จนถึงสิงหาคม 2568 และจะมอบความยืดหยุ่นที่โดดเด่นและการเข้าถึงที่สะดวกสบาย ที่ตอบโจทย์ความต้องการของบริษัททุกขนาดในประเทศไทย

  • รีจัส กะตะธานี บิลดิง ภูเก็ต
  • รีจัส สุภาลัย ไอคอน กรุงเทพฯ
  • รีจัส รสา วัน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
  • รีจัส เจพาร์ค นิฮอน มูระ ชลบุรี
  • รีจัส ไบรท์ตัน แกรนด์ พัทยา
  • รีจัส สตาร์ ไอที เซ็นเตอร์ ระยอง
  • สเปซเซส สุทธิ บิลดิง กรุงเทพฯ
  • สเปซเซส วานิช เพลซ อารีย์
  • สเปซเซส คิงบริดจ์ ทาวเวอร์
  • เอชคิว เอส.พี บิลดิง กรุงเทพฯ
  • เอชคิว เสริมมิตร ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
  • เอชคิว โอเอสซี บิลดิง สมุทรปราการ
  • การขยายสาขาใหม่ในประเทศไทยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสำเร็จของ IWG ซึ่งทำทั้งสถิติรายได้ กระแสเงินสด และการเติบโตของกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมไปกับการเติบโตของเครือข่ายอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เพียงปีเดียว IWG ได้เซ็นสัญญาเปิดศูนย์ใหม่ถึง 465 แห่งทั่วโลก นอกจากนี้ ความหลากหลายของแนวทางในการพัฒนาพื้นที่การทำงานแต่ละแห่งทั้ง 12 แห่ง ยังสะท้อนถึงศักยภาพของ IWG ในการตอบโจทย์ความต้องการด้านการทำงานแบบไฮบริดของแต่ละตลาด ผ่านกลยุทธ์ที่ปรับให้เหมาะสมกับบริบทในแต่ละพื้นที่นั้น (Highly Localized Approach)

    ปัจจุบัน อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) มีพื้นที่ให้บริการเพื่อการทำงานในประเทศไทยรวม 46 แห่ง รวมถึงพื้นที่แห่งใหม่ที่เปิดให้บริการในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมีแผนจะเปิดพื้นที่เพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 12 แห่ง ภายในปี 2568

    เปิดตัว Regus แห่งใหม่ในภูเก็ต

    Regus Kata เตรียมเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 บนเกาะภูเก็ตอันงดงาม โดยเป็นพื้นที่อาคารเดี่ยวขนาด 1,323 ตารางเมตร สูง 3 ชั้น ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง IWG และ บริษัท ภูเก็ตหาดกะตะ จำกัด ในการปรับปรุงอาคารพาณิชย์ 7 คูหา ให้กลายเป็นศูนย์การทำงานแบบไฮบริดที่ทันสมัย ทั้งนี้Regus Kata Thani ตั้งอยู่ระหว่างตัวเมืองภูเก็ตและหาดป่าตอง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ด้วยทำเลที่ตั้งโดดเด่นด้วยการเดินทางที่สะดวก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ท่ามกลางร้านค้าและที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง

    6 พื้นที่เพื่อการทำงานใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ

    อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) ยังคงเดินหน้าตอบรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของพื้นที่ทำงานที่มอบความยืดหยุ่นที่มีคุณภาพสูง พร้อมผลักดันแนวคิด "15-Minute City" หรือเมืองที่ผู้คนสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียเวลาการเดินทางไกลจากที่พักอาศัยโดยตลอดช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2568 IWG จะเปิดตัวพื้นที่ทำงานใหม่ 7 แห่งทั่วกรุงเทพฯ โดย 4 แห่งตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ที่โดดเด่น

    เปิดตัว Regus ใหม่ 2 แห่งในกรุงเทพฯ

  • ในพื้นที่ย่านสาทร Regus Supalai ICON พร้อมเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2568 เสริมทัพพื้นที่ทำงานแบบไฮบริดระดับพรีเมียมของ Regus โดย Regus Supalai ICON ตั้งอยู่ภายในอาคารที่มีโครงสร้างแบบมิกซ์ยูสที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อผสานชีวิตเมืองและธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พื้นที่ทำงานของ Regus จะครอบคลุมหนึ่งชั้นของอาคารสูง 56 ชั้น ซึ่งประกอบด้วยโซนที่พักอาศัย ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ ศูนย์แห่งนี้พร้อมก้าวขึ้นเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ของกรุงเทพฯ
  • Regus Rasa One Tower Bangkok เตรียมเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2568 เสริมเครือข่ายพื้นที่ทำงานแบบไฮบริดของ Regus ในกรุงเทพฯ พื้นที่ทำงานแห่งใหม่นี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง IWG และ บริษัท รสา ทาวเวอร์ จำกัด โดยมีพื้นที่ขนาด 604 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใจกลางย่านจตุจักร ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่คึกคัก และเดินทางสะดวกในกรุงเทพฯ
  • เปิด 3 ศูนย์ใหม่ในกรุงเทพฯ

  • เช่นเดียวกันในพื้นที่ราชเทวี Spaces Suthi Building ได้เปิดให้บริการก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม 2568 ด้วยพื้นที่การทำงานที่ตั้งอยู่ใกล้กับ MRT เพชรบุรี และยังอยู่ใกล้ย่านอโศกที่คึกคักที่สะดวกต่อการเดินทาง พื้นที่ทำงานใหม่แห่งนี้เกิดจากการบริหารร่วมกันกับ สุทธิ ดีเวลลอปเม้นท์ โดยมีพื้นที่รวม 2,372 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 4 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับทุกความต้องการของผู้ใช้งาน
  • ด้วยความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทแหลมทองสหการ พื้นที่การทำงานใหม่แห่งที่สามภายใต้แบรนด์Spaces จะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ Spaces Vanit Place Aree ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานี BTS อารีย์ เพียง 200 เมตร เป็นอาคารสูง 31 ชั้น โดยจะมีพื้นที่ทำงาน 1,796 ตารางเมตร นอกจากการเข้าถึงที่สะดวกและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถเพลิดเพลินกับสวนบนดาดฟ้าและพื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น ของอาคารเพื่อการผ่อนคลายหลังเลิกงานได้อีกด้วย
  • อีกหนึ่งพื้นที่ทำงานใหม่ภายใต้แบรนด์ Spaces ในกรุงเทพฯ คือ Spaces Kingbridge Tower ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2568 พื้นที่แห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็น "สุดยอดประสบการณ์การทำงานที่ดีที่สุด" ใจกลางย่านพระราม 3 ตั้งอยู่ภายในอาคารสำนักงานสูง 52 ชั้น ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2567 โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม อาทิ สวนลอยฟ้า (Sky Garden) พื้นที่ประชุม พื้นที่ค้าปลีก พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานภูมิพลอันสวยงาม
  • HQ เปิดพื้นที่ทำงาน 2 แห่งในกรุงเทพฯ และ 1 แห่งในสมุทรปราการ

    HQ กำลังขยายการดำเนินงานในกรุงเทพฯ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่บริษัท เอส.พี.อาคาร จำกัดโดยจะเปิดพื้นที่การทำงานใหม่สองแห่งในเดือนพฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ HQ S.P. Building ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานตั้งอยู่ในย่าน พญาไท และห่างจากสถานี BTS อารีย์ เพียงไม่กี่ก้าว จะเพิ่มพื้นที่ใช้สอย 1,092 ตารางเมตร ให้กับบริการของ HQ ในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการบริการจาก IWG อย่างแข็งแกร่งผ่านพื้นที่ต่างๆ มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90%

  • HQ และ เอส.พี.อาคาร ยังร่วมมือกันในการเปิดพื้นที่การทำงานแห่งที่สองในกรุงเทพฯ ที่ HQ Serm-Mit Tower ซึ่งมีกำหนดเปิดในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยศูนย์ HQ นี้จะมีพื้นที่ใช้สอย 517 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกมาก โดยห่างจากสถานี BTS อโศก และสถานี MRT สุขุมวิท เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
  • HQ OSC Building ในสมุทรปราการ เตรียมเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 (ไตรมาส 1 ปี 2568)! โดยศูนย์ใหม่แห่งนี้มีพื้นที่ 500 ตารางเมตร และเกิดจากความร่วมมือกับโอเรียลทอล สยาม โดยจะตั้งอยู่ที่ OSC Building ในย่านบางพลี
  • ด้วยการเติบโตของตลาดที่ก้าวกระโดดเนื่องจากการที่บริษัททุกขนาดหันมาใช้รูปแบบการทำงานในแบบไฮบริด ในระยะยาว คาดการณ์ว่า 30% ของพื้นที่สำนักงานเชิงพาณิชย์ทั่วโลกจะกลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นได้ภายในปี 2573 ด้วยความร่วมมือกับ IWG พันธมิตรสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมได้รับการสนับสนุนจากประสบการณ์ระดับโลกของ IWGทั้งนี้ ข้อมูลจากGlobal Workplace Analytics ระบุว่า การทำงานแบบไฮบริดช่วยให้บริษัทลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ยสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 9,000 ปอนด์ต่อพนักงานหนึ่งคน (โดยประมาณ 390,000 บาท)

    มาร์ค ดิกซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) กล่าวว่า "กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา และระยอง คือศูนย์กลางมทางธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทำเลที่ยอดเยี่ยมและยังสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของเราอย่างดีเยี่ยม แนวคิดการทำงานแบบไฮบริดกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดแรงงานไทยและทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นคุณภาพสูงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้"

    "พื้นที่การทำงานใหม่ทั้ง 12 แห่งภายใต้แบรนด์ Spaces, Regus และ HQ คือการตอกย้ำกลยุทธ์ Multi-Brand Strategy ของเรา ที่มุ่งตอบโจทย์ทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ทั้งในด้านความพึงพอใจของพนักงานและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการคัดสรรทำเลที่เหมาะสมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรในประเทศไทย และตั้งตารอที่จะร่วมมือกันผลักดันประสิทธิภาพและการดำเนินงานของธุรกิจให้เติบโตต่อไปในอนาคต"

    การเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานแบบไฮบริดกำลังเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล โดยคาดว่ามีพนักงานในกลุ่ม white-collar ทั่วโลกประมาณ 1.2 พันล้านคน และขนาดตลาดที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 1.57 ล้านล้านปอนด์ (ประมาณ 68.46 ล้านล้านบาท) การใช้พื้นที่สำนักงานแบบดั้งเดิมจะยังคงลดลง เนื่องจากธุรกิจต้องการพื้นที่ที่ไม่ใช่สำนักงานแบบเดิม และหันมาใช้พื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นแทน ในปี 2023 IWG ต้อนรับพันธมิตรใหม่ในกว่า 800 พื้นที่ และมีลูกค้ารวมถึง 83% ของบริษัทใน Fortune 500


    แท็ก Spa  

    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ